กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--กทม.
ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านบางกะปิ รับทราบความคืบหน้าโครงการ “เรียนฟรี ทำได้จริง” พร้อมเดินหน้าหนุนนโยบายเรียนดี เรียนฟรีอย่างต่อเนื่อง เล็งเสนอสภากทม. เห็นชอบออกเป็นข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครใช้เป็นแผนปฏิบัติงานส่งเสริมการศึกษาของกทม. ในอนาคต
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านบางกะปิ เพื่อรับทราบความคืบหน้าโครงการ “เรียนฟรี ทำได้จริง” ตามนโยบาย เรียนดี เรียนฟรี ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการดำเนินงาน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขร่วมกัน อันจะทำให้กระบวนการปฏิบัติงานเกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมได้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. 435 โรงเรียน กว่า 350,000 คน ได้เรียนฟรี อย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยจัดเป็นค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ อุปกรณ์การเรียน และกิจกรรมส่งเสริมการเรียน ครอบคลุม 20 รายการ ประกอบด้วย อาหารเสริม (นม) อาหารกลางวัน เครื่องแบบนักเรียน เครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ชุดนอนอนุบาล ชุดพละ พร้อมเครื่องหมายวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว การประกันอุบัติเหตุ ค่าพาหนะบริการสุขภาพ เวชภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน ค่าแบบเรียน แบบเรียนเตรียมความพร้อม แบบฝึกหัด วัสดุการศึกษา วัสดุสื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา คอมพิวเตอร์ ค่าหนังสือห้องสมุด หนังสือเสริมการเรียน ค่าจ้างครูสอนภาษาต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยในปี 2551 กทม. ได้จัดสรรค่าอาหารกลางวันเพิ่มเติมจากเดิม 10 บาท เป็น 15 บาท/คน/วัน รวมเป็นเงิน 342,000,000 บาท เพื่อเพิ่มคุณค่าอาหารและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน
ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านบางกะปิทางโรงเรียนให้ความร่วมมือดำเนินการตามนโยบายเรียนดี เรียนฟรี เป็นอย่างดี โดยในภาคเรียนนี้โรงเรียนได้ดำเนินการช่วยเหลือนักเรียนครบทั้ง 20 รายการแล้ว ซึ่งกรุงเทพมหานครพร้อมเดินหน้าสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเสนอสภากทม. ออกเป็นข้อบัญญัติกทม. เพื่อใช้เป็นแผนการปฏิบัติงานด้านการพัฒนาการศึกษาของกรุงเทพมหานครต่อไป
ว่าที่ ร.ต.บุญโชติ พิมพ์จันทร์ ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนบางกะปิ กล่าวว่า โครงการเรียนดี เรียนฟรี ของกรุงเทพมหานคร ถือเป็นโครงการที่ดี สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองได้ อยากให้กทม. ดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับเด็ก และเยาวชนของกรุงเทพฯ ให้เท่าเทียมกับนานาประเทศ อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้องได้เข้มงวดตรวจสอบการใช้งบประมาณ รวมทั้งอุปกรณ์การศึกษา และชุดนักเรียนให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะชุดนักเรียนนั้น ควรจะมีการวัดขนาดของนักเรียนแต่ละคนเพื่อให้ชุดมีขนาดพอดีกับนักเรียน