RICH ปรับแผนขึ้นเป็น Hab เหล็กแห่งอาเซียน เชื่อราคาเหล็กยังพุ่งดันรายได้ทะลุหมื่นลบ.แน่

ศุกร์ ๑๓ มิถุนายน ๒๐๐๘ ๑๕:๒๖
กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--ริช เอเชีย สตีล
ผู้บริหาร RICH ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุน ยืนยันปีนี้รายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาทแน่ จากราคาเหล็กพุ่งต่อเนื่อง ประกอบกับโรงงานใหม่แล้วเสร็จผลิตเหล็กเพิ่มได้อีกปีละ 90,000 ตัน รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างคล่องตัว พร้อมสบช่อง FTA ฟีเวอร์ ผันตัวเองเป็น Hub เหล็กแห่งอาเซียนเพิ่มน้ำหนักทางธุรกิจให้ทั้งฝั่งการผลิตและเทรดดิ้ง ช่วยหนุนผลประกอบเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
นางสาวอังคกาญจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)(RICH) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ว่า ยังมีทิศทางที่ดีหลังจากที่ราคาเหล็กในตลาดโลกและราคาเหล็กในประเทศยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณที่จะลดต่ำลง ประกอบกับหลังจากโรงงงานแห่งใหม่ติดตั้งเครื่องจักรผลิตเหล็กแปรรูปแล้วเสร็จและสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 90,000 ตันต่อปี รวมเป็น 215,000 ตันต่อปี (จากเดิมที่บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเท่ากับ 125,000 ตันต่อปี) สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัททั้ง 4 แห่ง โดยอยู่ใน จ.สมุทรปราการ 1 แห่ง จ. สมุทรสาคร 2 แห่ง และ จ.พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้ฐานลูกค้าของบริษัทขยายกว้างขึ้น ดังนั้นจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
"เชื่อว่าราคาเหล็กยังมีทิศทางเป็นขาขึ้น เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง เพราะประเทศจีนยังจะต้องใช้เหล็กในการบูรณะซ่อมแซมประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑล เสฉวน ดังนั้นคงจะลดการส่งออกลงอีก ทำให้ราคาเหล็กก็ยิ่งต้องปรับเพิ่มขึ้น อย่างราคาเหล็กม้วนรีดร้อนเวลานี้ปีที่แล้วอยู่ที่ 480 เหรียญ/ตัน แต่ปีนี้ขึ้นไปอยู่ที่ 1050 เหรียญ/ ปีหน้าคาดว่าจะไปถึง 1,200 เหรียญ/ตัน ขณะที่อินเดียก็ถูกห้ามส่งออก เพื่อรองรับความต้องการในประเทศก่อน ก็ยิ่งทำให้เหล็กเข้าสู่ตลาดโลกน้อยลง จึงมีผลต่อราคาแน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายรับของบริษัท ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา RICH สามารถบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงเรื่องราคาเหล็กที่สูงขึ้นได้ดี ด้วยการดูแลปริมาณสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม ยิ่งทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปี 2551นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/1551 เป็นต้นไปจะทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ทำให้ทั้งปีน่าจะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ จากปีก่อนที่ทำได้ 4,636.38 ล้านบาท ''
ประธานกรรมการบริหาร RICH กล่าวต่อว่า เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกเหนือจากการทำตลาดสินค้าที่มีอยู่เดิมแล้ว บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง ในส่วนของการจัดหาเหล็กรีดร้อนเกรด
พิเศษ(Special Grade Hot Rolled Coil) เพื่ออุตสาหกรรมถังแก๊สที่ได้เริ่มธุรกิจมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการจัดหาตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยเป็นการจำหน่ายให้โรงงานผลิตถังแก๊ส สำหรับไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุแก๊ส LPG (Liquid Petroleum Gas)ทั้งภายในประเทศและกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบันความต้องการใช้พลังงานทดแทนจากก๊าซธรรมชาติเริ่มขยายตัวกว้างขวางขึ้น ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคต นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะผลิตเหล็กโครงสร้างเหล็กแปรรูปอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่ได้เริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่าน โดยกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายคือลูกค้าที่จำหน่ายเหล็กแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุชิ้นส่วนยานยนต์ (First Tier) กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง
สำหรับธุรกิจใหม่ที่จะมีส่วนสำคัญในการที่เพิ่มรายได้ในครึ่งปีหลัง ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท คือ โครงการจัดหาเศษเหล็กให้แก่ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจากธนาคารต่างประเทศหลายแห่งสำหรับธุรกิจดังกล่าวในวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทได้ลงนามในสัญญาการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อกับกลุ่มธนาคารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ในขณะเดียวกันในช่วงที่ประเทศไทยได้เดินหน้าทำ FTA กับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดประเทศ จึงได้ปรับแผนทางธุรกิจหันมาเป็นศูนย์กลางการค้าเหล็กของอาเซียน (Hub) เพิ่มน้ำหนักทางด้านซื้อมาขายไปมากขึ้น ควบคู่กับการผลิตเพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ไปโรดโชว์ ต่อซัพพลายเออร์เหล็กรายใหญ่ของโลกในประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่า RICH เป็นบริษัทที่เป็นทั้งผู้จัดซื้อเหล็กสำเร็จรูปแล้วนำไปกระจายต่อทั่วตลาดอาเซียน และเป็นทั้งผู้ผลิตที่ส่งออกสู่ตลาดระดับภูมิภาคเช่นเดียวกัน จึงทำให้บริษัทได้รับการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโลกจัดจำหน่ายสินค้าให้ในราคาที่สามารถทำกำไรได้มากขึ้น จึงถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งกับการขยายตลาดสู่ต่างประเทศในครั้งนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในอนาคต
ไตรมาสแรกปีนี้ RICH มีกำไรสุทธิ 64.21 ล้านบาท พลิกจากที่เคยขาดทุนสุทธิ 175 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2550 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการขายที่เพิ่มสูงขึ้น จากการบริหารการขายให้มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีรายได้รวม 1,654.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 28.11 ประกอบด้วยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 330.77 ล้านบาทหรือเท่ากับร้อยละ 25.76 มีผลจากราคาจำหน่ายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.17 รวมถึงรายได้อื่นที่ได้รับจากการรับชำระหนี้จากผู้บริหารแทนลูกหนี้การค้าจำนวน 20.66 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 9.23 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 707.82 และรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 2.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.66
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร. 02-554-9394 , 085-133-0184

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO