กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ธนาคารนครหลวงไทย
ธนาคารนครหลวงไทยเสนอทางเลือกสำหรับผู้ต้องการซื้อบ้านด้วยข้อเสนอสินเชื่อเคหะนครหลวงไทยดอกเบี้ยพิเศษ 3 รูปแบบ ทั้งแบบคงที่ 2 ปี และแบบลอยตัว วงเงินกู้สูงสุด 95% ตลอดจนข้อเสนอจูงใจกับบริการประกันชีวิตของธนาคารที่ให้อัตราค่าเบี้ยประกันพิเศษ
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะนครหลวงไทย 3 รูปแบบ สำหรับโครงการที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ในการพัฒนาหรือโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ แบบที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 4.50% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.0% ต่อปี แบบที่ 2 ดอกเบี้ยแบบลอยตัว ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 4.00% ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี และแบบที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.99% ต่อปี ในช่วง 10 เดือนแรก หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมในการกู้ และค่าธรรมเนียมในการประเมินราคาวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี สำหรับลูกค้าที่ยื่นขอวงเงินกู้ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2551 นี้
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะสำหรับโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง โดยปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี "ธนาคารได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะนครหลวงไทยด้วยข้อเสนอสินเชื่อเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตสูงสุด 100% ของค่าเบี้ยประกันสำหรับลูกค้าที่ทำประกันกับบริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทย จำกัด โดยไม่นับรวมกับวงเงินสินเชื่อเคหะและมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขที่ลูกค้าได้รับสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเงื่อนไขดังกล่าวจะทำให้ในปีนี้ธนาคารสามารถปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านบาท ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะธนาคารมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการและส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าเก่าที่ดีของธนาคารและที่สำคัญได้ปรับปรุงขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ขอกู้อีกด้วย" นายชัยวัฒน์ กล่าว