กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ธนาคารสินเอเซีย
‘สินเอเซีย’ คลอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ACL B/E Convertible ชูจุดเด่นที่สามารถเปลี่ยนตั๋วแลกเงินเป็นเงินฝากประจำได้เป็นรายแรก พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยแบบตั๋วแลกเงินที่สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป เชื่อโดนใจลูกค้าเงินฝาก พร้อมประกาศความมั่นใจธุรกิจเงินฝากโตตามเป้าที่ 60,000 ล้านบาท
นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ ACL Bank เปิดเผยว่า สินเอเซียประสบความสำเร็จในการคิดค้นเงินฝากตั๋วแลกเงินรูปแบบใหม่ที่มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นให้กับผู้ออมเงิน ได้แก่ ACL B/E Convertible ตั๋วแลกเงินพิเศษอายุ 3-12 เดือน ที่มีจุดเด่น คือ สามารถแปลงสภาพตั๋วแลกเงิน ACL B/E Convertible เป็นบัญชีเงินฝากประจำได้ทุกเมื่อด้วยวงเงินจำนวนเดียวกัน โดยไม่ถูกปรับลดดอกเบี้ยในกรณีตั๋วไม่ครบกำหนด นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากประจำทั่วไป คืออยู่ที่ 3.30 — 3.75% ต่อปี รวมถึงยังสามารถนำไปเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เงินฝาก ACL B/E Convertible จึงเหมาะกับทั้งลูกค้าบุคคลธรรมดา นิติบุคคล รัฐวิสาหกิจ และกองทุน ที่ต้องการความสะดวกสบายในการลงทุน ได้รับผลตอบแทนสูง และมีความมั่นใจในขณะเดียวกัน
นายอภิชาติ กล่าวว่า “เมื่อผู้ฝากเงินประเภทตั๋วแลกเงิน ACL B/E Convertible ถือตั๋วแลกเงินไประยะหนึ่งแล้ว มีความต้องการจะแปลงสภาพเงินฝากเป็นแบบเงินฝากประจำ ก็สามารถทำได้ทันที โดยลูกค้าจะยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้หน้าตั๋วสำหรับช่วงระยะเวลาถือตั๋วที่ผ่านมา และหลังจากนั้นลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสำหรับระยะเวลาการฝากที่เหลืออยู่ ด้วยวิธีการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกับลูกค้าและความคล่องตัวในการแปลงสภาพนี้ จึงเชื่อว่า ACL B/E Convertible จะได้รับการตอบรับจากผู้ออมเงินเป็นอย่างดี”
ACL B/E Convertible เป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีสถาบันการเงินใดเคยให้บริการมาก่อน ซึ่งถือได้ว่าธนาคารสินเอเซียเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาเงินฝากในรูปแบบนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการสร้างสรรผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้เป็นทางเลือกที่โดนใจลูกค้ามากที่สุด
“ธนาคารสินเอเซียให้ความสำคัญและการดูแลเป็นพิเศษแก่ลูกค้าเงินออมเสมอ โดยยึดมั่นในการมอบผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ผู้ออมเงินมาโดยตลอด ซึ่งถ้าพิจารณาในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคาร จะเห็นว่าธนาคารมีบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูงหลายรูปแบบ รวมถึงการถือตั๋วแลกเงินของธนาคารก็จะให้ความเป็นธรรมแก่ลูกค้าในกรณีที่ไถ่ถอนตั๋วก่อนครบกำหนด โดยให้ดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ถือจริง อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงินซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากประเภทอื่นๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้ ธนาคารยังมีความมุ่งมั่นที่จะคิดค้นผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ออมเงิน โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ธนาคารจะยังนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาด และความต้องการของผู้ออมเงิน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะตรงใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากตั๋วแลกเงิน ACL B/E Convertible ใหม่ ที่เพิ่มระยะเวลาฝากเป็น 24 เดือน ซึ่งดอกเบี้ยจะยิ่งสูงขึ้นตามระยะเวลาการฝาก นอกจากนี้ ยังมีเงินฝากตั๋วแลกเงินที่จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายงวดซึ่งมอบอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในแต่ละงวด มีบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการจัดการเงินตราต่างประเทศ และลดความเสี่ยงภายใต้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น
ปัจจุบันธนาคารมีบริการเงินฝากพิเศษที่สามารถเป็นทางเลือกให้กับผู้ฝากเงิน ได้แก่ บัญชีเงินออมทรัพย์พิเศษ Hi-Speed Savings ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่เพิ่มความยืดหยุ่น และคล่องตัวให้กับผู้ฝากเงินที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำ แต่มีความต้องการใช้เงินเป็นครั้งคราว มีบัญชีกระแสรายวันพิเศษ Super Cheque บัญชีกระแสรายวันที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ และมีความคล่องตัวในการเบิกถอนสูงกว่าบัญชีเงินฝากทั่วไป รวมถึง B/E Smile ซึ่งเป็นเงินฝากตั๋วแลกเงินระยะเวลา 15 เดือน ที่เพิ่มความพิเศษกว่าตั๋วแลกเงินอื่นๆ ที่ผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝาก ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
นายอภิชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับธุรกิจเงินฝากในปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายการขยายฐานเงินฝากจาก 48,000 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน เป็น 60,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2551 นี้ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 25 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ฝ่ายสื่อสารองค์กร 02 663 9461 -4