“กรมควบคุมมลพิษ” ลั่นรับมือสู้อุทกภัย ป้องกันเข้มแหล่งน้ำ - ตั้งศูนย์กำจัดขยะ

จันทร์ ๑๔ กรกฎาคม ๒๐๐๘ ๑๔:๔๖
กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กรมควบคุมมลพิษ
‘กรมควบคุมมลพิษ’ ปรับแผนรับมืออุกทกภัย หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี 2549 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแหล่งทรัพยากรน้ำ จนเกิดน้ำท่วมขังเน่าเสีย ซึ่งมีสาเหตุจากขยะและสิ่งปฎิกูล โดยล่าสุดประสานจังหวัด ที่เสี่ยงภัยจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ร่วมสางปัญหาสำรองพื้นที่รองรับ- พักขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่ของประเทศ เมื่อปี 2549 ถึงขั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อสภาพการดำรงชีวิต บ้านเรือน ทรัพย์สิน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นบริเวณกว้างถึง 47 จังหวัดของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของความเสียหายด้านมลภาวะทางน้ำ อาทิเช่น พื้นที่น้ำเน่าเสียจากการท่วมขัง การระบายคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมจากการท่วมขังลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ภาวะความหมักหมมของขยะและสิ่งปฏิกูลที่เกิดขึ้นระหว่างน้ำท่วม ตลอดจนความเสียหายต่อระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมควบคุมมลพิษ ได้ทำการตรวจพบความเสียหายต่อสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ทั้งที่ก่อสร้างอย่างถูกต้องและเป็นแบบเทกอง ใน 12 จังหวัด โดยเฉพาะเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ที่มีปัญหาค่อนข้างรุนแรง และกรณีที่เกิดขึ้นต่อระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียใน 14 พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลเมืองน่าน , เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี , เทศบาลเมืองอุทัยธานี , เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี , เทศบาลเมืองชัยนาท , เทศบาลเมืองสิงห์บุรี , เทศบาลเมืองอ่างทอง , เทศบาลเมืองปทุมธานี , เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา , เทศบาลตำบลพระอินทราชา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา , เทศบาลนครอุบลราชธานี , เทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี , เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และ เทศบาลเมืองจันทบุรี ส่งผลให้ประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูระบบต่างๆ เหล่านี้ สูงกว่า 66 ล้านบาท “
รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ประกอบกับขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งอาจทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย ที่สร้างผลกระทบต่อระบบแหล่งทรัพยากรน้ำ เป็นกรณีซ้ำซากดังเช่นที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษจึงเร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทั้งการขอความร่วมมือจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพในทางปฏิบัติ ทั้งการดูแลสถานที่กำจัด
ขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล , สถานที่กำจัดกากของเสียอันตราย , การจัดการสิ่งแวดล้อมของแหล่ง กำเนิดมลพิษหรือกิจกรรมอื่น ที่อาจได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ตลอดจนการเตรียมพื้นที่สำรองเพื่อใช้รองรับ/พักขยะมูลฝอย การจัดการสิ่งปฏิกูลและการจัดการน้ำเสียในช่วงเกิดน้ำท่วม ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวต่อไป
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นิชร คงเพชร หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมมลพิษ โทร. 0-2298-2060
ฐปณี จันทคัด /081-534-5382
ภัทรวดี ใจผ่อง /085 239 8400 , 086 334 1984

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO