มหกรรมการประชุมทางวิชาการและการแสดงเทคโนโลยีของเยอรมัน ครั้งที่ 9 และ งานแสดงสินค้ามุมไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวเยอรมัน 2008

พุธ ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๐๘ ๑๐:๑๗
กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
- เยอรมัน...พันธมิตรตัวอย่างที่สำคัญในด้านการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
- การบรรจุหีบห่อ...หัวข้อหลักของการประชุมทางวิชาการ จีทีเอส08
- ความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างสถาบันการศึกษาของไทยและเยอรมัน
- ไวน์ชั้นยอดจากเยอรมัน
- คำว่า “Made in Germany“ บ่งบอกคุณภาพ ที่กำลังเป็นที่ต้องการด้านการออกแบบ
- ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน...สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใหม่ของคนไทย
ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน มิชาเอล โกลส์ ( Mr. Michael Glos) กล่าวว่า “เยอรมันเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยในกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรป” คำกล่าว นี้ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง สังเกตได้จากสถิติติการค้าแบบทวิภาคีระหว่างเดือนมกราคม ถึงเมษายน 2551 ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 14 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าส่วนมากอยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนที่ใช้ในเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมากไปกว่านั้น อัตราการลงทุนของผู้ประกอบการเยอรมันในประเทศไทยก็สูงถึง 142 ล้านยูโร ในปี 2550 ที่ผ่านมาซึ่งเหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย
จากสถิติดังกล่าว เป็นที่แน่นอนว่าเยอรมันจะเข้ามามีบทบาทในโครงการขนาดใหญ่ในประเทศไทยมากขึ้น โดยมหกรรมการประชุมทางวิชาการและการแสดงเทคโนโลยีของเยอรมัน ครั้งที่ 9 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.และจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 — 11 พฤศจิกายน 2008 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพฯ โดยจะเป็นจุดรวมคำตอบการนำเสนอนวัตกรรมจากเยอรมันในด้านวิศวกรรมหลากหลายสาขา เช่น เครื่องกล ยานยนต์ ก่อสร้าง การบรรจุหีบห่อผลิตภัณฑ์ และ ด้านพลังงาน
ทางด้าน นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “การสนับสนุนของ สสปน. ในการจัดงานครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ สสปน.ให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศต่างๆ หรือ Country show ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการจัดแสดงสินค้านานาชาติที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ทางด้านวิชาการ เทคโนโลยีและการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ที่มีมายาวนานกว่า 150 ปี ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
“สสปน.จะให้ความร่วมมือ ให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในการจัดงานในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการให้ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “กรุงเทพฯ: มหานครแห่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน” โดยมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียนภายในปี 2553 ซึ่งผมมั่นใจว่ากรุงเทพมหานครเป็นจุดยุทธศาสตร์ ในการเป็น “ประตูสู่อาเซียน” เพราะกรุงเทพฯ มีศักยภาพ และความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ทั้งในด้านสถานที่การจัดงานแสดงสินค้า ที่มีมากกว่า 5 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 250,000 ตารางเมตร รวมถึงความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค โทรคมนาคม ระบบคมนาคมขนส่ง โดยปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ทางด้านการแสดงสินค้านานาชาติในอาเซียนในแง่ของรายได้รวม และพื้นที่ขายรวม”
“การจัดงานในครั้งนี้ สสปน.คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน ซึ่งจะสามารถ นำรายได้เข้าประเทศไทยได้กว่า 150 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมกระแสเงินหมุนเวียนภายในงาน ซึ่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ถือเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมไมซ์ที่สร้างรายได้ให้ กับประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ โดย สสปน.คาดว่าในปี 2551 นี้ จะมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เป็นจำนวน 947,600 คน ซึ่งสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศประมาณ 65,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2550” นายณัฐวุฒิ กล่าวเสริม
ในด้านพลังงาน แม้ว่าวันนี้โรงงานพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะยังเป็นประเด็นรอง แต่มีแนวโน้ม ว่ากำลังทวีความสำคัญอย่างชัดเจน ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์นี้กระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งสหพันธ์ของเยอรมันจึงจะจัดแสดง “การใช้น้ำและพลังงานอย่างยั่งยืนและสมเหตุสมผล” ไว้ให้แก่ผู้ร่วมงานได้ชม และในฐานะผู้นำทางเทคโนโลยี เยอรมันจะนำเสนอวิสัยทัศน์และโอกาสการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากพื้นที่ขนาดใหญ่ รวมทั้งเสนอทางออกสำหรับการประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อการบำบัดน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล ในการนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำทางอุตสาหกรรมของเยอรมัน เช่น บริษัท ซีเมนส์ (Siemens), บริษัท ทึซเซ่นครุ้ป (ThyssenKrupp) และ บริษัท บีเอ เอส เอฟ (BASF) ก็จะมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในเรื่องการใช้พลังงานที่ยั่งยืน
เนื่องจากประวัติเรื่องราวความสำเร็จของบริษัทเยอรมันในตลาดไทยในหลายกรณีเกิดจากการแลกเปลี่ยนทางความรู้และเทคโนโลยี มหกรรมการประชุมครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนดังกล่าว โดยในปีนี้ประเด็นร้อนที่น่าจับตามองเป็นเรื่องการบรรจุหีบห่อผลิตภัณฑ์ ในด้านนี้ประเทศไทยก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นสายพานลำเลียงบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ที่อีสเทิร์น ซีบอร์ด หรือขวดน้ำดื่มในซุปเปอร์มาร์เกต บริษัทโครเนส (Krones) บริษัทซีกแวร์ค (Siegwerk), บริษัทบอยเมอร์ มาชีนเนนฟาบริค (Beumer Maschninenfabrik) หรือบริษัทบอช (Bosch) ก็จะมานำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดที่การประชุมนี้ และเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานที่สนใจสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปมากเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญของการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและนวัตกรรมก็คือวิศวกรที่มีคุณภาพ งานประชุมจีทีเอส08 นี้ จึงจะเน้นประเด็นนำเสนอเรื่องการศึกษาต่อที่เยอรมันในงานนี้ดังเช่น ในงานจีทีเอสที่ผ่านมา ตัวอย่างที่ดีที่สุดของความร่วมมือระหว่างเยอรมันและไทยในด้านนี้เห็นจะได้แก่การก่อตั้งบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธรไทย-เยอรมัน (TGGS) ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี อาเคิ่นร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในงานจีทีเอสที่จะถึงนี้สถาบันดังกล่าวจะมาแนะนำหลักสูตรการศึกษานานาชาติทั้งระดับปริญญาโทและเอกในด้านวิศวกรรมศาสตร์มาตรฐานเยอรมัน
นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังสามารถพบกับตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ของเยอรมันที่ซุ้มศูนย์บริการข้อมูลการศึกษา “เด อา อา เด” (Deutschen Akademischen Ausstauschdienstes) ซึ่งพร้อมที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาต่างๆ แก่นักเรียนไทยที่งานที่ จะจัดอีกด้วย
งานแสดงสินค้ามุมไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวเยอรมัน 2008
เป็นอีกงานหนึ่งที่จัดควบคู่กับงานจีทีเอส08 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ และงานออกแบบสินค้าหรูหราจากเยอรมันที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย ตัวอย่างเช่น ด้านอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ที่เข้าชมนิทรรศการนี้จะมีโอกาสได้ชิมเบียร์เยอรมัน ไส้กรอกเยอรมัน ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมและผลิตภัณฑ์ขนมอบจากเยอรมันจำนวนมาก อีกทั้งยังมีไวน์เยอรมันซึ่งเป็นจุดเด่นของงานนี้ให้เลือกสรรหลายชนิดจากผู้ผลิตไวน์กว่า 30 ยี่ห้อ ซึ่งขณะ นี้ไวน์เยอรมันกำลังเป็นที่โปรดปรานของคอไวน์ชาวไทยและดูจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มุมที่น่าจับตามองอีกมุมนึ่งในงานคือ บูธโชว์ยานยนต์ยี่ห้อ เอาดี้ (Audi) และเบนซ์ (Mercedes) ที่จะมาอวดโฉมรถยนต์นั่งรุ่นหรูหราล่าสุดให้ได้ชมกัน
สำหรับด้านการท่องเที่ยวในเยอรมัน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเยอรมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นกลายเป็นอันดับที่สามในเอเชียรองจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและจีน (สถิติการค้างคืนประมาณ 750,000 คืนต่อปี) เมืองที่อยู่ในความนิยมของนักท่องเที่ยวอันได้แก่ นครมิวนิค (M?nchen) มหานครเบอร์ลิน (Berlin) เมืองดุสเซลดอร์ฟ (D?sseldorf) เมืองชตุ๊ทการ์ท (Stuttgart) และ แหล่งท่องเที่ยวทะเลสาบโบเดนเซ (Bodensee) บริเวณเทือกเขาแอล์ป โดยเมืองเหล่านั้นจะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของเยอรมันมานำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวต่างๆ ในงานนี้
นอกจากนี้สายการบิน LTU และ Lufthansa จะนำเสนอแพคเกจท่องเที่ยวพิเศษหลายรูปแบบเตรียมไว้สำหรับผู้ชอบเที่ยวชาวไทยที่จะไปเยอรมันอีกด้วย
กิจกรรมพิเศษในระหว่างงาน จีทีเอส08
8 พฤศจิกายน 2551: งานเลี้ยงต้อนรับที่สถานทูตเยอรมัน ประจำประเทศไทย
10 พฤศจิกายน 2551: งานกาล่า “150 ปี ความสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-เยอรมัน”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
สุเมธ กาญจนพันธุ์
โทร 02 627 3501 ต่อ 218
โทรสาร 02 627 3510
อีเมล์ [email protected]
หอการค้าเยอรมัน-ไทย
ศิริกุล สาครรัตนกุล
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร 02 670 0600 ต่อ 2003
โทรสาร 02 6700603
อีเมล์ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version