สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ฯออกแถลงการณ์ จี้รัฐแก้ปัญหาพลังงานก่อนอุตฯยานยนต์ล่ม

พฤหัส ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๐๘ ๑๖:๕๐
กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย
“สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย” จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาพลังงานชาติให้ถูกทาง ก่อนอุตสาหกรรมยานยนต์มูลค่าล้านล้านบาทในฐานะอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ชาติมีปัญหา ฉะนั้นรัฐควรตระหนักก่อนไทยเสียโอกาสขึ้นแท่นศูนย์การผลิตโลก ชี้ 6 มาตรการแก้ไขจากรัฐแค่ซื้อเสียงประชาชนระยะสั้น
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาวิกฤติราคาพลังงานในช่วงที่ผ่านมาจนส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคประชาชน จนก่อตัวเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติขึ้นทุกขณะว่า ในช่วงที่ผ่านมาสมาคมฯ ประเมินว่ารัฐบาลไม่เพียงแก้ไขปัญหาอย่างไม่เป็นระบบ แต่กลับไม่จริงจังกับการจัดการในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งไม่ว่าน้ำมันจะขยับขึ้นสูงไปเท่าใด กลับไม่มีการตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการว่ามีความชอบธรรมหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นกลับเน้นเพียงการส่งเสริมเพียงกลุ่มผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ ถึงกับวาดแผนออกนโยบายอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ปริมาณการใช้รถเครื่องยนต์เบนซินมีเพียง 35% ของประเทศ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่รวมทั้งภาคขนส่งและเชิงพาณิชย์นั้นใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่รัฐฯ กลับละเลยการแก้ปัญหาและออกนโยบายส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว
ที่ผ่านมานั้นหากรัฐบาลชุดนี้ได้มีการวิเคราะห์และตระหนักถึงเป้าหมายของอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศที่มีการสานต่อกันจากหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็จะทราบทันทีว่า ประเทศไทยแข็งแกร่งในเวทียานยนต์โลกจากการเป็นฐานการผลิตรถปิกอัพ 1 ตันของโลก โดยมีเม็ดเงินลงทุนรวมทั้งระบบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท สร้างรายได้เข้าประเทศ ณ ปัจจุบันปีละมากกว่า 5 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้มาจากส่งออกปิกอัพกว่า 80%
“ปิกอัพเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนของไทยมายาวนานจนขึ้นแท่นการเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในโลก นั้นเพราะบริษัทรถเห็นศักยภาพของตลาดในประเทศ บวกกับความพร้อมในทุกด้านของไทย แต่วันนี้รัฐบาลกำลังทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วยนโยบายที่กลับไปกลับมา เช่นตอนแรกเคยจะส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี85 ครั้นเอกชนนำเรื่องไปศึกษาจะผลักดันอย่างจริงจังกลับไม่มีหลักประกันทางนโยบายจากรัฐที่ชัดเจน ทั้งในแง่ภาษี การส่งเสริมลงทุนและการจัดหาน้ำมัน แถม ให้หลังไม่กี่สัปดาห์บอกจะเน้นไปที่แก๊สโซฮอล์ อี100 แทน ขณะเดียวกันนั้นก็ส่งผลถึงความไม่มั่นใจของเอกชนไปอีกหลายโครงการ รวมถึงการลงทุนผลิตอีโคคาร์ที่มีมูลค่าโครงการประมาณแสนล้านบาทและจะเพิ่มในอนาคตอีกเท่าตัวด้วย โดยที่ผู้ประกอบการก็ไม่กล้าสอบถามรัฐเองโดยตรง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เชื่อแน่ว่าต้องส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มทุนยานยนต์ข้ามชาติและอีกหลายสาขาแน่นอน
จากกรณีปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกและหันไปใช้แก๊สเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแอลพีจีนั้นมียอดเฉลี่ยติดตั้งต่อเดือนถึง 1 แสนคัน ซึ่งจากรายงานของ ปตท. ยังระบุอีกว่า ปริมาณการใช้แอลพีจีเพิ่มเป็น 380,000 ตันต่อเดือนจาก ปกติอยู่ที่ 340,000 ตันต่อเดือน ซึ่งไม่เพียงรถยนต์นั่งเท่านั้นที่หันไปติดตั้งแก๊ส แต่รถปิกอัพและรถตู้จำนวนมากถึงกับปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เบนซินแทนทั้งๆ ที่เพิ่งซื้อรถมาเพียงไม่กี่วัน”
“สมาคมฯ เข้าใจว่าประชาชนไม่มีทางออกจึงต้องหันไปพึ่งพาแอลพีจี เนื่องจากมีราคาถูกกว่าน้ำมันถึง 1 ใน 3 ขนาดว่าปิกอัพป้ายแดงยังยอมถอดเครื่องดีเซลคอมมอนเรลใหม่มูลค่านับแสนไปขายในราคาต่ำแค่ 2-3 หมื่นบาท แล้วหันไปซื้อเครื่องเบนซินมือสอง 1J หรือ 2J จากญี่ปุ่นซึ่งเดิมราคาต่ำมากแค่ 1-2 หมื่นบาท แต่ตอนนี้ราคาขยับขึ้นไปเป็น 3—5 หมื่นบาทแล้วแต่สภาพ ขณะเดียวกันอู่ที่รับติดตั้งหลายแห่งยังไม่มีมาตรฐานเพียงพอ เท่ากับว่าผลักให้ผู้บริโภคไปเสี่ยงตาย ซึ่งรถที่ติดตั้งแอลพีจีไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ต่างอะไรกับการขับรถติดระเบิดเคลื่อนที่ โดยที่รัฐไม่ได้ออกมากำกับดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยกตัวอย่างประเทศอิตาลีนั้นมีการใช้แก๊สแพร่หลาย จนถึงกับออกกฎหมายว่ารถที่ติดตั้งแก๊สนั้น ไม่สามารถจอดที่ชั้นใต้ดินเพื่อความปลอดภัย แต่ในไทยไม่มีอะไร ไม่มีกฎหมายรองรับเลย แล้วต่อไปประชาชนจะอยู่กันอย่างไร“
ทางสมาคมฯ จึงได้ออกแถลงการณ์ ครั้งนี้เพื่อให้ภาครัฐออกมาแจกแจงแผนแม่บทพลังงานให้ชัดเจน พร้อมกับตอบคำถามสังคมให้ชัดโดยเร็วที่สุดก่อนที่ปัญหาจะบานปลายไปมากกว่านี้ในอนาคต
“หากรัฐจัดระบบให้ดี ก็จะตอบคำถามและชี้นำประชาชนให้เดินไปในทิศทางที่เหมาะสมได้ เพราะทุกพลังงานนั้นมีความเหมาะสมกับรถทุกประเทศ เช่นกรณีรถใช้แก๊สโซฮอล์ รัฐก็เริ่มมีทางเลือกที่หลากหลายให้แต่มันไม่ชัดเจน และน่าแปลกที่แก๊สโซฮอล์ อี20 กลับไม่มีการผลิตป้อนในปั๊มทั้งๆ ที่ยอดขายรถอี20 พุ่งกว่าเดือนละร่วม 20,000 คัน ส่วนกรณีเอ็นจีวีนั้นก็เหมาะกับรถเพื่อการขนส่งในเมืองเพราะสะอาดไร้มลพิษ และเหมาะกับรถทั่วไปที่วิ่งในเส้นทางประจำที่มีแนวท่อก๊าซพาดผ่าน หรือกรณีไบโอดีเซลก็มีปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โปรเจ็คไม่เดินหน้า ทั้งๆ ที่นี่เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาหลายสิบปีแล้ว แต่กลับไม่มีใครใส่ใจมากนัก แม้ล่าสุดรัฐจะออก 6 มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนก็ตามแต่หลายฝ่ายมองว่า รัฐไม่มีทางออกในระยะยาว เพียงแต่ทำเพื่อหาเสียงเท่านั้น“
นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาท่านรัฐบาลชุดนี้ถือว่าเป็นที่ยอมรับของหลายฝ่ายรวมทั้งผู้ประกอบการเองต่างก็ให้ความนับถือ ที่สำคัญคืออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต้องความฝากความหวังไว้กับรัฐ การที่สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ฯ ออกมาเคลื่อนไหวกับประเด็นปัญหานี้ เนื่องจากถือเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนที่รับผิดชอบกับการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับยานยนต์โดยตรง ได้สัมผัสกับข้อมูลด้านเทคนิคของรถยนต์แต่ละยี่ห้อมาโดยตลอด จึงอยากให้รัฐพิจารณาข้อมูลให้ชัดเจนและเป็นธรรม ก่อนที่จะออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนกับสังคมในวงกว้าง ไม่เช่นนั้นความเสียหายอาจเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจก็เป็นได้
รายละเอียดเพิ่มเติม : สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย
Tel : 0-2522-1731, 0-2971-6450-60 ต่อ 213 Fax : 0-2971-6462

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version