พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส เปิดตัว “ฟิลิป สไตน์” สุดยอดนวัตกรรมเครื่องบอกเวลาเพื่อสุขภาพ

ศุกร์ ๒๕ กรกฎาคม ๒๐๐๘ ๐๘:๓๕
กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--โฟร์ฮันเดรท
“พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส” รุกตลาดนาฬิการะดับพรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง 2008 ล่าสุดเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมนาฬิกาเพื่อคนรักสุขภาพ “ฟิลิป สไตน์” (Philip Stein) แบรนด์เนมจากสหรัฐอเมริกาที่นำเทคโนโลยีคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้า มาบรรจุในนาฬิกาผ่านชิปอัจฉริยะที่สามารถส่งผ่านคลื่นความถี่ที่ตรงกับคลื่นสมองคน ช่วยปรับสมดุลย์ของพลังงานในร่างกาย พร้อมลดความตรึงเครียดและมลภาวะที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคต่างๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีสมาธิ และเสริม สร้างศักยภาพในการทำงาน ที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง ไม่กลัวไม่เศรษฐกิจซบ หวังโตเพิ่มอีก 20 % ตั้งเป้า 1 หมื่นเรือน ในราคา 50,000 — 400,000 บาท
นายณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส (PMT THE HOUR GLASS) ผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาไฮเอนด์ระดับโลก อาทิ Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet, Chopard, Jaeger Le Coultre เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้บริษัทได้นำเข้านาฬิกาแบรนด์ “ฟิลิป สไตน์” (Philip Stein) เข้ามาทำตลาดเป็นแบรนด์ล่าสุดในตลาดประเทศไทย หลังจากที่ได้เปิดตัวแบรนด์สุดหรูสำหรับนักสะสมนาฬิกาชั้นสูงไปก่อนหน้านี้ อาทิ Richard Mille,Max Busser & Friends, และ Vianney Halter เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อรองรับกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เร่งรีบ และวุ่นวายแต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือลูกค้าระดับพรีเมี่ยมทั้งภายในประเทศและกลุ่มลูกค้าต่างชาติเนื่องจากแบรนด์ฟิลิป สไตน์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์นาฬิการะดับพรีเมี่ยมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นาฬิกาฟิลิป สไตน์ (Philip Stein) เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งวงการนาฬิกา ที่มีการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่มาบรรจุในนาฬิกา ผ่านชิปอัจฉริยะที่สามารถส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กที่มีความถี่ 7-9 เฮิร์ตซ ซึ่งตรงกับคลื่นความถี่สมองคนเราในขณะที่มีความสงบและมีสมาธิ ดังนั้นเทคโนโลยีดังกล่าวจึงมีส่วนช่วยปรับสมดุลของพลังงานในร่างกายมนุษย์ และส่งผลให้ผู้สวมใส่สามารถต้าน ทานกับความตึงเครียด รวมถึงมลภาวะที่เกิดในชีวิตประจำวัน อาทิ จากการใช้อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคต่าง ๆ อย่าง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผลที่ได้รับกับผู้สวมใส่ก็คือ ความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยทำให้หลับสบายยาวนานยิ่งขึ้น, รู้สึกเครียดลดน้อยลง มีสมาธิในการทำงาน มีพลังงาน รวมถึงการมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น เป็นต้น
“นาฬิกาฟิลิป สไตน์ ทุกเรือนมีความโดดเด่นด้วยตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ และมีฟังก์ชั่นบอกเวลาสองประเทศ มีให้เลือกทั้งตัวเรือนที่เป็นสเตนเลสสตีล และทอง 18K มีทั้งขนาด Mini Case , Small Case , Large Case และ Chronograph รวมถึงมีให้เลือกตั้งแต่ตัวเรือนธรรมดาเรียบเก๋ หรือประดับเพชร และแซฟไฟร์หลากสี และที่ถูกใจสุภาพสตรีที่สุดคือสายนาฬิกาแบบ Interchangaeble ที่มีให้เลือกหลายวัสดุตั้งแต่สายยางแบบสปอร์ต สายหนังคลาสสิค ไปจนถึงสายซาตินสุดหรู และสีสันทุกเฉดสีที่สามารถเปลี่ยนใส่ได้ทุกโอกาสอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ นอกจากนี้ยังมีแบบกำไลและสายรัดข้อมือที่สามารถเป็นเครื่องประดับเพื่อสุขภาพของทุกเพศทุกวัย” นายณรัณ กล่าว
นายณรัณ กล่าวเสริมว่า จากการเก็บข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา พบว่าพฤติกรรมการเลือกใช้นาฬิการะดับพรีเมี่ยมของกลุ่มลูกค้านั้นมองว่านาฬิกาที่มีความหรูหรา เป็นสิ่งที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ซึ่งส่งผลให้ตลาดนาฬิการะดับพรีเมี่ยมยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตโดยรวมของนาฬิการะดับ พรีเมียมไม่น้อยกว่าร้อยละ 15-20 และคาดว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20 % เช่นกัน และตั้งเป้าในการจำหน่ายนาฬิกาฟิลิป สไตน์ อยู่ที่ 10,000 เรือน โดยราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 — 400,000 บาท
“ช่วงห้าปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนาฬิกาชั้นสูงระดับโลกเติบโตเป็นอย่างมาก ส่วนในภูมิภาคเอเชีย ความต้องการเครื่องบอกเวลาชั้นสูงก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะประสบกับสภาวการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าธุรกิจกลุ่มนาฬิกาชั้นสูงกลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ในทางกลับกันพี เอ็ม ที เดอะ อาวร์ กลาส มีอัตราการเติบโตร้อยละ 35 ต่อปีในช่วงสามปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการนาฬิกาแบรนด์เนมในหมู่ผู้บริโภคมีเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ส่วนการเปิดตัวนาฬิกาฟิลิป สไตน์ ในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกสรรค์ผลิตภัณฑ์นาฬิการะดับพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีวิถีชีวิตแบบคนเมือง” นายณรัณ กล่าว
สำหรับบริษัท PMT THE HOUR GLASS ผู้นำในการจัดจำหน่ายและผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาชั้นนำระดับโลกเกิดจากการรวมตัวของ Prima Times Co., Ltd. และ The Hour Glass Thailand เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยการรวมตัวกันของทั้งสองบริษัทชั้นนำในครั้งนี้ เป็นการผสานความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างลงตัว ที่ทำให้ PMT THE HOUR GLASS มีจำนวนแบรนด์และสินค้าที่หลากหลาย มีจำนวนร้านสาขาครอบคลุมแหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์ชั้นนำ และมีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง ปัจจุบันมีร้านจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าชั้นนำของกรุงเทพฯ 3 สาขา ได้แก่ “PMT THE HOUR GLASS” สาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าเกษร และ ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ และ Chopard Boutique หนึ่งสาขาที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง (คุณแป๋ง) โทร. 081-913-1291
คุณจิรสุดา จิตราภรณ์ (น้องไก่) โทร. 089-770-6113 หรือ 02-362-4123-4

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO