กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
แคนนอน ประเทศไทย ทุ่มงบการตลาดกว่าร้อยล้าน ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ภายใต้กลยุทธ์ “Canon, It Works!” แคมเปญแนะนำโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ครอบคลุมทุกการใช้งาน เสริมความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์ความสำเร็จทางธุรกิจ หวังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดสินค้าอุปกรณ์สำนักงานภายใน 3 ปี
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวถึงการเปิดตัวแคมเปญ “Canon, It Works!” นี้ว่า “เรามองเห็นโอกาสของสินค้ากลุ่มนี้ แคนนอนต้องการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการดำเนินธุรกิจ และเพื่อสื่อให้กลุ่มลูกค้าเห็นว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแคนนอนสามารถเชื่อมโยงการใช้ระหว่างกันเพื่อเติมเต็มความต้องการให้ผู้ใช้งานจริงที่สำนักงานได้อย่างครบครัน ครอบคลุมการใช้งานในโฮมออฟฟิศ สำนักงานขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อช่วยประหยัดค่าดำเนินการของสำนักงาน ทั้งยังช่วยให้งานมีประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อเลือกใช้งานอย่างถูกวิธี เพราะความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เริ่มเลือกอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ดังนิยามของคำว่า It works! คือ ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ Start (การเริ่มต้น)”
“ในทุกวันนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง บวกกับสภาวะเงินเฟ้อสูง เงินในกระเป๋าผู้บริโภคน้อยลง แต่สินค้ามีราคาแพงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้จ่ายเฉพาะกับสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น และไตร่ตรองในการเลือกซื้อของยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลไปยังผู้ประกอบการทั้งหลายที่ต้องรับภาระต้นทุนสินค้าที่แพงขึ้น แต่ลำบากที่จะขึ้นราคาสินค้าได้ ซึ่งสภาวะแบบนี้เป็นโจทย์ใหญ่ที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการประคองกิจการให้อยู่รอด โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่เงินทุนไม่มากหรือสายป่านไม่ยาว ทางเลือกหนึ่งเพื่อให้อยู่รอดคือการรัดเข็มขัดในองค์กรเพื่อให้ต้นทุนรวมลดลง นักธุรกิจหลายกลุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลงเทรนด์การทำงาน บางบริษัทพยายามหาเครื่องมือ หรือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช่จ่าย แต่ดำเนินธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแคนนอนจึงสามารถช่วยอำนวยความสะดวกตรงจุดนี้ได้ดี” นายวรินทร์เผย
ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของแคนนอนเปิดเผยถึงการทุ่มงบการตลาดจำนวนกว่าร้อยล้านบาทในครั้งนี้ว่า หลังจากที่แคนนอนได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการดำเนิน กลยุทธ์ “Canon Digital Imaging Solution” สำหรับกลุ่มสินค้าถ่ายภาพและการพิมพ์ภาพไปก่อนหน้านี้ แคนนอนจึงตัดสินใจอัดฉีดงบประมาณอีกหนึ่งร้อยล้านบาทในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2551 เพื่อผลักดันให้เกิดความสำเร็จเช่นเดียวกัน
“งบประมาณการตลาดนี้จะนำไปจัดสรรเพื่อการโฆษณาทางสื่อต่างๆ และจัดกิจกรรมทางตลาด อาทิ การจัดโรดโชว์ตามอาคารสำนักงานต่างๆ หรือจัดสัมมนาแนะนำโซลูชั่นผลิตภัณฑ์แก่ดีลเลอร์และผู้ใช้โดยทั่วไป พร้อมทั้งยังเปิดให้บริการเว็บไซด์ www.canonitworks.com เพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์แก่ผู้ใช้อย่างละเอียด โดยจะมี 2 เฟส เฟสแรกจะเป็นการให้ข้อมูลสินค้าในกลุ่ม It Works พร้อมทั้งเทคโนโลยีของสินค้า และการจัดสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจ SME ที่น่าสนใจ อาทิ สัมมนาประสบการณ์ของนักธุรกิจ SME ที่ประสบความสำเร็จ โดยเจ้าของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย
ซึ่งจัดจะขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม ที่โรงแรม Sheraton Grand เฟสที่ 2 เปิดให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเครื่องสาธิตไปทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อจริง เพราะอยากให้ลูกค้าได้เห็นประสิทธิภาพของเครื่อง และการนำเสนอบริการหลังการขายและส่วนลดสำหรับหมึกพิมพ์และกระดาษ”
ผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญ Canon, It Works!
สำหรับผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญ Canon, It Works! มีทั้งสิ้น 6 ไลน์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ขนาดพกพา เครื่องพิมพ์แบบออล-อิน-วัน เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ระบบมัลติฟังก์ชั่น เครื่องโปรเจคเตอร์ และกล้องแบบเน็ตเวิร์ค
1. PIXMA Mobile Printer เครื่องพิมพ์แบบพกพาซึ่งผู้ใช้สามารถนำติดตัวไปใช้ได้ในทุกสถานที่ คุณภาพงานพิมพ์สีและขาว-ดำ ระดับเครื่องพิมพ์แบบปกติ ให้ความคล่องตัวด้วยการพิมพ์เอกสารจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค PDA หรือ มือถือ ผ่านสัญญาณ อินฟราเรด หรือ บลูทูธ โดยตรง และมีชุดแบตเตอรี่สำหรับการทำงานนอกสถานที่ และสายชาร์จไฟในรถยนต์
2. PIXMA Business AIO เครื่องพิมพ์ออล-อิน-วัน ด้วยฟังก์ชั่น พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ ตอบสนองความต้องการทุกการใช้งาน ให้สีสันงานพิมพ์สมบูรณ์แบบ ละเอียดคมชัด มาพร้อมฟังก์ชั่นรับ-ส่งแฟกซ์สี และโหมดพิมพ์สีหน้าปก CD และ DVD สามารถทำงานภายใต้ระบบ LAN ได้ด้วยเทคโนโลยี built-in network port (รุ่น MX700 , MX850 , MX7600) พิมพ์เอกสาร 2 หน้าอัตโนมัติ (รุ่น MX850 , MX7600) และด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ทำให้คุณภาพงานพิมพ์จากเครื่องอิ้งค์เจ็ทคมชัดเท่าเครื่องเลเซอร์สี และกันน้ำได้ทั้งแผ่น สีไม่ทะลุหน้าหลังทำให้พิมพ์งานได้ทั้ง 2 หน้า (รุ่น MX7600)
3. Laser Printers ในฐานะผู้ผลิตเลเซอร์พริ้นเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก แคนนอนจึงคิดค้นเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยจึงให้งานพิมพ์ออกมาเร็วทันใจ และเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรคุณประหยัด รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทำให้งานพิมพ์ฉับไวไม่ติดขัดโดยไม่ต้องเพิ่ม RAM ตลอดอายุการใช้งาน เทคโนโลยีการทำความร้อนในการรีดผงหมึกลงบนกระดาษที่ร้อนทันทีโดยไม่กินไฟ ประหยัดไฟได้ดีกว่าเทคโนโลยีการให้ความร้อนแบบเดิมได้ถึง 75% และเทคโนโลยี all-in-one cartridge ซึ่งแคนนอนเป็นรายแรกของโลกที่รวมชุดสร้างภาพและชุดทำความสะอาดไว้ด้วยกัน ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่มีค่าบำรุงรักษา และยังช่วยเก็บผงหมึกไม่ให้ฟุ้งกระจายไม่เป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ
4. Multifunction Laser Printers แคนนอนเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่มีเทคโนโลยีในการผลิตทั้ง พริ้นเตอร์ สแกนเนอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องแฟกซ์เป็นของตัวเอง ซึ่งช่วยให้การผสมผสานของแต่ละฟังก์ชั่นนั้นกลมกลืน ทำงานราบรื่นไม่มีปัญหาจุกจิกและทนทาน นอกจากฟังก์ชั่นในการพิมพ์ ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ ด้วยระบบเลเซอร์ ซึ่งมีความคมชัดและประหยัดต้นทุนในระยะยาวแล้ว มัลติฟังก์ชั่นเลเซอร์พริ้นเตอร์ของแคนนอนยังมีฟังก์ชั่นเทียบเท่าเครื่องรุ่นใหญ่ เช่น การสแกนเข้า Thumb drive หรือส่งเข้า email (รุ่น MF4680)
5. XEED-LCOS Projector โปรเจคเตอร์ล้ำสมัย ด้วยเทคโนโลยี LCOS (Liquid Crystal on Silicon) ลบข้อจำกัดในการนำเสนอของทั้งระบบ LCD และ DLP ช่วยให้สีสันชัดเจน ภาพเนียนเรียบ ให้การนำเสนอโดดเด่นด้วยความละเอียดในระดับ SXGA+ (รุ่น SX80, SX6, SX7) ที่ให้รายละเอียดได้ชัดเจนทั้งตัวอักษรขนาดเล็ก ภาพลายเส้นที่เน้นรายละเอียด รูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหวสีสดใส และสามารถรองรับภาพยนตร์ระดับ High definition movie (รุ่น SX80, SX6, SX7) พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI (รุ่น SX80) และยังสามารถนำเสนอภาพโดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ โดยเชื่อมต่อ Thumbdrive หรืออุปกรณ์ PictBridge ได้โดยตรง
6. Network Camera สุดยอดเทคโนโลยีกล้องเน็ตเวิร์คเพื่อความปลอดภัย ให้ภาพคมชัด ครบถ้วนทุกมุมมอง เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องเดินทางตลอดเวลา หรือไม่มีเวลาพอที่จะไปตรวจงานได้ทุกที่ เพราะสามารถให้ network camera จับภาพที่ต้องการได้ทุกเวลา และรับชมภาพผ่านการเชื่อมต่อกับเครือข่าย อาทิ อินเตอร์เน็ต LAN และ Leased Line หรือบันทึกภาพไว้เพื่อตรวจสอบย้อนหลัง กล้องเน็ตเวิร์คของแคนนอนให้ภาพที่ชัดเจนจากเลนส์ที่มีคุณภาพ ซูมได้สูงกว่าถึง 26 เท่าแบบ optical พร้อมด้วยความสามารถในการปรับความชัดของภาพ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แคนนอนนำมาเปิดตัวในงานนี้มี 6 รุ่น ประกอบด้วย เลเซอร์พริ้นเตอร์ 5 รุ่น ได้แก่ LBP3050, LBP3150, LBP3310, LBP3370 และ LBP5050 และแอล-คอสโปรเจคเตอร์ 1 รุ่น ได้แก่ XEED SX80
ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ
แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 โดยเป็นสาขาของบริษัท แคนนอน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนพนักงานกว่า 400 คน เป็นบริษัทที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านอุปกรณ์ภาพภ่ายและเครื่องใช้สำนักงานต่างๆ ประกอบด้วยทีมฝ่ายขายตรงและเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 12 แห่ง พร้อมศูนย์บริการอีก 130 แห่งทั่วประเทศ
แคนนอนมีความมุ่งมั่นในการค้นคว้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมเพื่อการวิจัยและพัฒนาทุกปี และเป็นบริษัทที่จดสิทธิบัตรจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแคนนอนยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ Fortune Global 500 ด้วยความยึดมั่นในหลักปรัชญา “เคียวเซ (Kyosei)” ซึ่งมีสาระสำคัญว่าด้วยการใช้ชีวิตและการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม แคนนอนจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และใช้งานง่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชีวิตทั้งในบ้านและในที่ทำงาน
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแคนนอนเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์ ) จำกัด บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
สุภามาศ ถ้วนกำจร ปิยาภรณ์ จุลละบุษปะ โทร. 0 2610 2371
โทร 0 2344 9999 ต่อ 166 [email protected]
[email protected] ธนวัฒน์ จิรคูณสมบัติ โทร. 0 2610 2381
[email protected]
- พ.ย. ๒๕๖๗ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เปลี่ยนบาร์กลางล็อบบี้เป็นแกลอรี่อาร์ตภาพถ่ายนีออนสะท้อนสีสันกรุงเทพฯ "The Silence Project"
- พ.ย. ๒๕๖๗ กลุ่มบริษัทแคนนอน ประเทศไทย ร่วมทำกิจกรรม “แคนนอนอาสาครั้งที่ 21: Forest for Life 2” เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการทำโป่งเทียม ฝายชะลอน้ำ และปลูกป่าบนภูเขา
- พ.ย. ๕๐๒๖ ภาพข่าว: กลุ่มบริษัทแคนนอน ประเทศไทย รับใบรับรอง Green Meetings และ Green Meetings Plus ประจำปี 2561