บีโอไอ หนุนการพัฒนาคุณภาพอาหารไทยส่งออก ให้ส่งเสริมเบทาโกร ลงทุนตั้งศูนย์ทดสอบทางเคมีของอาหาร

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพอาหารส่งออกของไทย โดยอนุมัติให้การส่งเสริมโครงการลงทุนกิจการศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก ของเบทาโกร หวังยกระดับสินค้าไทยให้เหมาะกับการเป็นครัวของโลก
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อเร็วๆนี้ ที่มีนายประวิช รัตนเพียร เป็นประธาน ที่ประชุมได้อนุมัติส่งเสริมการขยายกิจการของ บริษัท ศูนย์วิทยาศาสตร์เบทาโกร จำกัด เพื่อให้บริการทดสอบทางเคมี กับตัวอย่างอาหารสัตว์ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ นอกจากนั้นยังมีบริการเพาะเชื้อ และสกัดเชื้อจากตัวอย่างอาหารสัตว์ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 112 ล้านบาท
โดยการทดสอบทางเคมีจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การทดสอบทางโภชนาการ จะทำการทดสอบสารเคมี 9 ชนิด เช่น ไฟเบอร์ ฟอสฟอรัส และเกลือเป็นต้น การทดสอบโลหะหนัก จะทดสอบอาหารสัตว์ว่ามีโลหะหนัก จำพวก สารหนู ตะกั่ว ปรอท และแคดเมี่ยม หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบเพื่อหาการตกค้างของยาฆ่าแมลงและยาปฏิชีวนะต่าง ๆ
ทั้งนี้ศูนย์ดังกล่าวตั้งขึ้นเพื่อให้บริการแก่ บริษัทในเครือเบทาโกรในประเทศ ได้แก่ บริษัท บี. ฟู้ด โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทบีจีที ฟีดมิลล์ จำกัด บริษัท อายิโนะโมโต๊ะ เบทาโกร โฟร่เซ่นฟูดส์ จำกัด และพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าภายนอกในกลุ่มผู้ผลิตอาหารและแปรรูปปศุสัตว์
“ ปัจจุบันการควบคุมคุณภาพอาหาร ถือเป็นหลักปฏิบัติที่ประเทศผู้ส่งออกสินค้าต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเทศไทยที่หลายประเทศ ยกย่องให้เป็นครัวของโลก ซึ่งการอนุมัติให้ส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าส่งออกไทยให้สูงขึ้น เพราะอาหารหลายประเภทมักพบการปนเปื้อนของสารเคมี ซึ่งวิธีที่จะแก้ปัญหาได้ คือการสร้างศักยภาพให้กับหน่วยงานหรือธุรกิจเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับผู้บริโภค ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ต้องให้สินค้าไทยมีมาตรฐานเดียวกัน เหมือนการวางกรอบป้องกันปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ” นายสาธิตกล่าว
สำหรับบริษัท ศูนย์วิทยาศาสตร์เบทาโกร จำกัด เดิมตั้งอยู่ที่อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเน้นให้บริการทดสอบเพื่อประเมินสุขภาพฝูงสัตว์ ตรวจสารตกค้างและการปนเปื้อนในเนื้อสัตว์และอาหารสัตว์ ส่วนการขยายกิจการครั้งนี้ เป็นศูนย์การทดสอบทางวิทยาศาสตร์แห่งใหม่ที่จังหวัดลพบุรี ในเนื้อที่ 4 ไร่ ที่สามารถให้บริการทดสอบได้ในขอบข่ายที่มากกว่าเดิม