ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. นวลิสซิ่ง” ที่ระดับ “BBB-/Negative”

เสาร์ ๐๙ สิงหาคม ๒๐๐๘ ๐๘:๓๕
กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยที่สูงของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อใหม่ที่มีความเสี่ยงแต่ให้ผลตอบแทนสูง คือ สินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของสินเชื่อบุคคลที่มีหลักประกัน นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ไม่เอื้ออำนวยอาจบั่นทอนคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของบริษัทและจำกัดการขยายสินเชื่อในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความกังวลดังกล่าวได้รับการบรรเทาลงบางส่วนจากฐานทุนที่พอเพียงของบริษัทและการเติบโตของความต้องการสินเชื่อเพื่ออุปโภคและบริโภค
แนวโน้มอันดับเครดิต ”Negative” หรือ “ลบ” ของบริษัทอยู่บนพื้นฐานของความกังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจากสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ แม้ว่าผลตอบแทนที่สูงขึ้นจะสามารถชดเชยต้นทุนทางการเงินโดยเฉลี่ยที่สูงขึ้นได้ แต่ทริสเรทติ้งยังคงกังวลว่าผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นจะไม่เพียงพอต่อภาระกันสำรองที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากการมีคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม หากบริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้ได้และผลตอบแทนอยู่ในระดับที่สูงขึ้นและเพียงพอต่อการชดเชยคุณภาพสินเชื่อที่คาดว่าจะอ่อนลง ก็จะมีการทบทวนแนวโน้มอันดับเครดิตอีกครั้ง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า นวลิสซิ่งเป็นบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อิสระขนาดเล็กซึ่งมีสินเชื่อคงค้าง 2,179 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ บริษัทมีสินเชื่อคงค้างลดลงเป็น 2,210 ล้านบาทในปี 2550 จาก 2,594 ล้านบาทในปี 2549 และลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2,179 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ลดลง ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังอยู่ในระดับคงที่ การแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยในระดับสูงได้ผลักดันให้บริษัทต้องหาฐานลูกค้าใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยหลังจากกรรรมการผู้จัดการคนใหม่เข้ารับตำแหน่งในกลางปี 2550 บริษัทได้เริ่มโครงการสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ หรือชื่อทางการตลาดของบริษัท คือ สินเชื่อทะเบียนรถ โดยนโยบายและกระบวนการพิจารณาสินเชื่อยังคงคล้ายคลึงกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั่วไป แต่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นเจ้าของรถยนต์ซึ่งใช้รถยนต์เป็นหลักประกันแทนที่จะเป็นลูกค้าที่ต้องการเงินเพื่อซื้อรถยนต์
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทนวลิสซิ่งยังได้ใช้รูปแบบทางธุรกิจใหม่โดยการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนรับอนุญาตภายใต้ชื่อ “นวเอ็กซ์เพรส” โดยตัวแทนแหล่านี้จะทำหน้าที่เสมือนสาขาขนาดเล็กในการส่งลูกค้าให้แก่บริษัท ซึ่งคุณภาพของลูกค้าจะมีผลต่อการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ตัวแทน เงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือที่จะผลักดันให้ตัวแทนช่วยเหลือบริษัทในการติดตามและควบคุมคุณภาพของลูกค้าในทางอ้อม นับตั้งแต่บริษัทใช้รูปแบบธุรกิจใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2550 ยอดสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ที่อนุมัติผ่านช่องทางนี้มีจำนวน 39.25 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 หรือ 6% ของยอดสินเชื่อใหม่ในปี 2550 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 สินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์เพิ่มเป็น 97.39 ล้านบาท หรือ 45% ของสินเชื่อใหม่ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สำหรับสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์เท่ากับ 0.54% ของสินเชื่อคงค้าง 134.9 ล้านบาท จาก 528 บัญชี ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 แม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อประเภทใหม่จะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินคุณภาพที่แท้จริงของฐานลูกค้าใหม่กลุ่มนี้ ในกลางปี 2551 บริษัทให้บริการการบริหารสินทรัพย์ผ่านบริษัทลูก คือ บริษัท เบลสซิ่ง แอสเสท เซอร์วิสเซส จำกัด โดยให้บริการจัดเก็บหนี้และติดตามยึดทรัพย์สำหรับหนี้เสีย คาดว่าธุรกิจใหม่จะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้นและช่วยกระจายแหล่งรายได้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของธุรกิจใหม่นี้ยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์
สถานะทางการตลาดของบริษัทนวลิสซิ่งดูเหมือนจะปรับตัวดีขึ้นจากสินเชื่อประเภทใหม่ แต่คุณภาพสินเชื่อยังคงเป็นประเด็นที่กังวล แม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะดีขึ้นจาก 3.03% ในปี 2549 เป็น 2.96% ในปี 2550 และ 2.46% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 แต่สินเชื่อสำหรับเจ้าของรถยนต์ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของสินเชื่อบุคคลที่มีหลักประกันมักจะมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบของสภาวะตลาด ทั้งนี้ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันในระดับสูง และความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้การคงคุณภาพสินทรัพย์ไว้ที่ระดับ 2.5% เป็นเรื่องที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงดำรงฐานทุนที่เพียงพอเพื่อชดเชยผลขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 44%-48% มาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งอยู่ในระดับที่เพียงพอ ทริสเรทติ้งกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version