กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศอีก 3 กองทุน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน และรองรับลูกค้าที่มีกองทุนครบอายุโครงการ ซึ่งสามารถลงทุนต่อเนื่องได้ ในระหว่างวันที่ 14-20 สิงหาคม 2551 ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน 14 (KTFIF6M14) อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,100 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ (Euro Commercial Paper : ECP) ของสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มีอันดับความเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป เบื้องต้นจะเน้นลงทุนในตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินในเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป หรือเอเชียประเทศอื่นๆ
ภาวะผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารการเงินต่างประเทศ (Euro Commercial Paper - ECP) มีแนวโน้มลดลง โดยที่ LIBOR มีการแกว่งตัวในทิศทางลดลงเล็กน้อย อีกทั้งต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุล THB ต่อ USD ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ผลตอบแทนของ ECP เมื่อแปลงเป็นสกุลเงินบาทระยะ 6 เดือน ยังมีแนวโน้มปรับลดลง อยู่ประมาณ 4.25% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน
นอกจากนี้ จะเปิดจำหน่ายกองทุนที่ลงทุนในประเทศอีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 37 (KTST6M37) อายุโครงการ 6 เดือน และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน40 (KTST3M40) มูลค่าโครงการกองทุนละ 2,000 ล้านบาท
โดยกองทุน KTST6M37 และ KTST3M40 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน โดยกองทุนจะเน้นลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุ6เดือนอยู่ที่ 3.70 %ต่อปี และ 3เดือนอยู่ที่ 3.60% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องประมาณ 0 - 17 bp เนื่องจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอีกทำให้มีการคาดการณ์ว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในครั้งนี้ อาจจะไม่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มีโอกาสได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน อยู่ที่ 2.375% ต่อปี และ6 เดือน อยู่ที่ 2.50% ต่อปี ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%
ในสัปดาห์นี้ บริษัทมีกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ครบอายุโครงการประกอบด้วย กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 29 และ กองทุนเปิดกรุงไทยมั่นคงคุ้มครองเงินต้น 1 ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยมั่นคงคุ้มครองเงินต้น 3 ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนในวันที่ 19 สิงหาคม 2551
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณแสงสิริ เนตรอัมพร /สำนักประชาสัมพันธ์
โทร 0-2670-4900 ต่อ 1235