ซีพีเอฟหนุนฟาร์มทั่วประเทศใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ... หลังดันโครงการ “ประกวดฟาร์มอนามัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” จนประสบความสำเร็จ

จันทร์ ๒๕ สิงหาคม ๒๐๐๘ ๑๖:๔๙
กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--ซีพีเอฟ
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการฟาร์มมาตรฐานสุกร และฟาร์มมาตรฐานไก่ไข่ ซึ่งชนะการประกวดใน “โครงการประกวดฟาร์มอนามัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2551 โดยมี นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานเรื่องความปลอดภัยของอาหาร เป็นนโยบายหนึ่งที่สำคัญของภาครัฐบาล และการเลี้ยงสัตว์ ก้เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญของกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย ดังนั้น อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ของไทยในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องนำระบบบริหารงานคุณภาพมาใช้ โดยเน้นในเชิงของการป้องกัน และให้มีการดำเนินการที่ถูกต้องตามมาตรฐานฟาร์ม พร้อมๆกับผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์จะต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม
“ความร่วมมือด้วยดีระหว่างภาครัฐถึง 3 กรม 3 กระทรวง กับภาคเอกชน ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของประเทศไทยในโครงการนี้ ถือเป็นความร่วมมือที่มีพลัง และยิ่งถ้าได้รับความร่วมมือกับผู้ประกอบการฟาร์มลี้ยงสัตว์ ก็จะยิ่งสามารถผลักดันการยกระดับภาคเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ให้ก้าวหน้าเทียบชั้นสากล ทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในอาหารที่ผลิตขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นแก่นานาประเทศผู้นำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์จากประเทศไทย รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมของภาคเกษตรในอนาคต เพราะเชื่อว่าภาคเกษตรจะเป็นตัวจักรสำคัญในการรับมือปัญหาวิกฤตอาหารของโลก”
ด้านนายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การจัดโครงการประกวดฟาร์มอนามัยใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการมาจนถึงช่วงของการประกาศผลและมอบรางวัลแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรและผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศเป็นอย่างดี และพบว่าการดำเนินโครงการเช่นนี้ สามารถกระตุ้นให้เกษตรกรใส่ใจในมาตรฐานฟาร์ม และสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากฟาร์มทุกแห่งของประเทศไทยสามารถปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานได้ ก็จะส่งผลดีต่อภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมอาหาร และที่สำคัญ ยังตอบสนองวิกฤตด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังตระหนัก เช่น ปัญหาโลกร้อนและการขาดแคลนพลังงานได้อย่างตรงจุด
“การยกระดับมาตรฐานฟาร์มให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกัน ของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทยนอกจากจะได้ประโยชน์ในด้านการผลิตอาหารปลอดภัยสำหรับคนไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้นานาประเทศมั่นใจที่จะนำเข้าอาหารจากประเทศไทย ที่สำคัญ การดำเนินฟาร์มมาตรฐานนี้มีการนำของเสีย เช่น มูลไก่ มูลสุกรกลับมาผลิตเป็นพลังงานทดแทนในระบบไบโอแก๊ส ช่วยลดภาวะโลกร้อน และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของฟาร์ม และลดมลพิษทางกลิ่น เป็นการทำฟาร์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง” นายวีรชัยกล่าว
โครงการประกวดฟาร์มอนามัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และภาคเอกชนโดยซีพีเอฟ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับธุรกิจของฟาร์มมาตรฐานสุกรและฟาร์มมาตรฐานไก่ไข่ ให้อยู่ในแนวหน้าของวงการปศุสัตว์ไทย ตลอดจนเพื่อเป็นแรงจูงใจและผลักดันให้ผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์ เพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงสัตว์ ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากฟาร์ม และได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
การประกวดในครั้งนี้มีฟาร์มที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน จำนวน 26 ฟาร์ม ประกอบด้วยฟาร์มสุกรพันธุ์ 6 ฟาร์ม ฟาร์มสุกรขุน 6 ฟาร์ม และฟาร์มไก่ไข่ 14 ฟาร์ม ทั้งนี้ ฟาร์มที่ได้รับการคัดเลือกให้ชนะการประกวดโครงการฟาร์มอนามัยใส่ใจสิ่งแวดล้อมประจำปี 2551 ระดับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ประเภทฟาร์มสุกรขุนขนาดใหญ่ ได้แก่ ฟาร์มสิทธิภัณฑ์ จ.ชัยภูมิ ประเภทฟาร์มสุกรพันธุ์ขนาดใหญ่ ได้แก่ฟาร์มไผ่สิงห์ทอง จ.อ่างทอง และประเภทฟาร์มไก่ไข่ขนาดใหญ่ ได้แก่ ฟาร์มชุมแพ1 และ ฟาร์มชุมแพ 2 จ.ขอนแก่น
ซีพีเอฟ เป็นบริษัทผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่มุ่งมั่นผลิตอาหารคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่ความเป็นครัวของโลก กระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ หรืออาหารโปรตีนของซีพีเอฟ จึงเริ่มต้นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบมาผลิตเป็นอาหารสัตว์ชั้นเยี่ยม ตามด้วยกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งพีเอฟได้ทำการค้นคว้าพัฒนา จนได้กระบวนการเลี้ยงสัตว์ที่มีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักปฏิบัติ 5 ข้อ นั่นก็คือ สายพันธุ์ดี อาหารดี โรงเรือนดี การจัดการฟาร์มดี และการป้องกันโรคดี จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการแปรรูปอาหารตามมาตรฐานสากล
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641, 0-2638-2713,
089-105-7567, 089-115-4988, 083-124-8383

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ