กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--สำนักงาน ก.พ.
สำนักงาน ก.พ. ประกาศ 7 รายชื่อ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ได้แก่ นางจรวยพร ธรณินทร์ นางสุภาวดี เวชศิลป์ นายภิรมย์ ศรีจันทร์ นายบุญเลิศ ลิ้มทองกุล นายภิรมย์ สิมะเสถียร นายศราวุธ เมนะเศวต และนายไพศาล วิเชียรเกื้อ
นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า จากการที่สำนักงาน ก.พ. ได้เปิดรับสมัครกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือกรรมการ ก.พ.ค. ไปเมื่อวันที่ 9—17 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมที่ประกอบด้วย ประธานศาลปกครองสูงสุด รองประธานศาลฎีกาที่ได้รับมอบหมายจากประธานศาลฎีกาหนึ่งคน กรรมการ ก.พ. ผู้ทรงคุณวุฒิหนึ่งคนที่เลือกโดย ก.พ. และเลขาธิการ ก.พ. ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ก.พ.ค. จำนวน 7 คน ซึ่งได้แก่ 1.นางจรวยพร ธรณินทร์ 2. นางสุภาวดี เวชศิลป์ 3. นายภิรมย์ ศรีจันทร์ 4. นายบุญเลิศ ลิ้มทองกุล 5. นายภิรมย์ สิมะเสถียร 6. นายศราวุธ เมนะเศวต 7. นายไพศาล วิเชียรเกื้อ ทั้งนี้ได้ทำการคัดเลือกจากผู้ที่ผ่านการประเมินประสบการณ์และหรือผลงานทั้งหมด 13 คน
คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมที่ได้รับคัดเลือกดังกล่าวจะดำรงตำแหน่ง 6 ปี และอยู่ได้เพียงวาระเดียว ทำหน้าที่ในการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ เรื่องร้องทุกข์ และเรื่องการคุ้มครองระบบคุณธรรม โดยจะตั้งคณะกรรมการวินิจฉัย อุทธรณ์ และคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ก็ได้
คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ถือเป็นจุดแข็งของการบริหารทรัพยากรบุคคลแนวใหม่ ที่มีความรวดเร็วและเป็นกลาง รวมทั้งทำให้ข้าราชการได้รับความคุ้มครองตามระบบคุณธรรมซึ่งเป็นหลักสำคัญของการบริหารทรัพยากรบุคคลของราชการพลเรือน
นอกจากนี้นายปรีชา ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า หากที่ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค. ผู้ใดมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 27 และพระราชกฤษฎีกากำหนดการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอย่างอื่น หรือดำรงตำแหน่งหรือประกอบการใดๆ หรือเป็นกรรมการในหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนอันขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม พ.ศ. 2551 บุคคลดังกล่าวต้องลาออกจากการเป็นบุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวต่อเลขานุการ ก.พ.ค. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคัดเลือก