กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
นายแพทย์ วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นหันมาใช้ยารักษาสิวกลุ่มที่เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน มีผลต่อการบีบรัดของมดลูกมากินเพื่อขับเลือดให้แท้งลูก ซึ่งในบางพื้นที่มีการจำหน่ายยากลุ่มนี้สูง สำหรับ นายแพทย์ สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาสูตินารีเวช คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การกินยาเพียงยาขับประจำเดือนเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ทำให้เกิดการแท้งเสมอไป จะแท้งเพียงบางรายเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการแท้งไม่สมบูรณ์ มีการติดเชื้อและต้องมาขูดมดลูกในภายหลัง ก่อให้เกิดการอักเสบของมดลูก หากกินยาขณะอายุครรภ์ ๔ ถึง ๕ เดือน ซึ่งเด็กในครรภ์มีขนาดใหญ่แล้วจะทำให้เกิดการรัดตัวของมดลูกมากจนทำให้มดลูกแตก เกิดการตกเลือดและช็อกจนเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ พบว่าผู้หญิงที่เข้ามารักษาภาวะแทรกซึมจากการทำแท้งในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ในจำนวนนี้กว่า ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ที่อายุน้อยกว่า ๒๐ ปี และเกือบ ๔๐ เปอร์เซ็นต์ มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ที่พบบ่อยและมากก็คือ การติดเชื้อในกระแสเลือด อุ้งเชิงกรานอักเสบ จนถึงขั้นมดลูกทะลุได้--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: สร้าง “Power of Options…อนาคตที่เราเลือกได้” 3 องค์กรภาคี ร่วมรณรงค์ลดปัญหาแม่วัยใส ในวันคุมกำเนิดโลก 2562
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ไบโอฟาร์ม มอบเวชภัณฑ์คุมกำเนิดให้สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า
- พ.ย. ๒๕๖๖ ภาพข่าว: การประชุมสัมมนาคณะกรรมการอุดมศึกษา ที่โรงแรมใบหยกสกาย