กบข. เน้นการบริหารจัดการความเสี่ยง ป้องกันผลกระทบตลาดหุ้น-ตราสารหนี้ผันผวน

พุธ ๒๗ สิงหาคม ๒๐๐๘ ๑๐:๒๗
กบข. เผยกลยุทธ์ลงทุนครึ่งปีหลังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยเน้นถือครองสินทรัพย์มั่นคงสูง “ตราสารหนี้-ถือเงินสด” ลดความเสี่ยงตลาดหุ้น — ตราสารหนี้ทั่วโลกผันผวน ยอมรับผลตอบแทนระยะสั้นปรับตัวลดลง สอดคล้องนักลงทุนสถาบันทั่วโลก

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่ากลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลังของ กบข. นั้นจำเป็นต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบและระมัดระวังเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดย กบข. ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นหลักและติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดย กบข. อาจมีการชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่บางประเภทออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดโลกขณะนี้

ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดหุ้นในประเทศปัจุบันมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ11 ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ระหว่างการรอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในจังหวะที่เหมาะสมและในช่วงนี้ กบข. เน้นการถือครองหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ทั้งตราสารหนี้และเงินสดโดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นและหากมีแนวโน้มทิศทางของอัตราดอกเบี้ยหยุดการปรับตัวขึ้นก็จะเพิ่มอายุเฉลี่ยของการลงทุนในตราสารหนี้ให้ยาวขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 2.4 ปี นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในตลาดหุ้นโลกโดยรวมชัดเจนขึ้น ก็จะเริ่มทยอยกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ ได้แก่ นิติบุคคลเอกชนต่างประเทศ และอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ตามการจัดสรรการลงทุนระยะยาวเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

สำหรับสัดส่วนการลงทุนของ กบข. ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2551 มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศร้อยละ 69.70 ตราสารทุนในประเทศร้อยละ10.27 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 4.08 ตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 8.36 อสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 3.88 และการลงทุนทางเลือกร้อยละ 3.71

นอกจากนี้ นายวิสิฐยังได้กล่าวเสริมว่า “ถึงแม้ในระยะสั้นปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข. จะปรับตัวลดลงไปบ้าง แต่ในแง่ผลการดำเนินงานในระยะยาวยังคงยึดหลักการกระจายความเสี่ยงการลงทุน เพื่อผลักดันให้ผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายของคณะกรรมการลงทุน ซึ่งมีการกำหนดกรอบและนโยบายการลงทุน รวมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงตามหลักมาตรฐานสากล”

เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวย้ำว่า หากเรามองผลตอบแทนระยะสั้น แน่นอนว่า จะมีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ากระทบกับผลตอบแทนการลงทุน นั่นคือ ความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของตลาด อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนให้ความสนใจกับผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนระยะสั้นรายปี ที่ผลตอบแทนการลงทุนมีโอกาสขึ้นลงมาก เช่นในปี 2550 ได้ผลตอบแทนการลงทุนร้อยละ 9.22 ในปี 2549 ได้ผลตอบแทนร้อยละ 3.44 และในปี 2548 ได้ผลตอบแทนร้อยละ 6.83 ในขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 2540-2550 ให้ผลตอบแทนสะสมร้อยละ 8.24 ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO