กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ก.ไอซีที
ดร.มั่น พัธโนทัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม — กลางเดือนสิงหาคม 2551 กระทรวงไอซีทีได้มีการตรวจสอบและค้นหาคำไม่เหมาะสมที่เผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้พบเว็บเพจที่เผยแพร่ข้อความและคลิปวิดิโอที่มีเนื้อหาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือว่าเป็นการเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง หรือมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จำนวนประมาณ 1,200 เว็บเพจ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ดำเนินการโดยส่งให้ ISP ช่วยดำเนินการปิดกั้นแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ขณะเดียวกันได้นำบางส่วนดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 20 แห่งพ.ร.บ.ฯ
สำหรับเว็บเพจที่กระทรวงฯ พิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล ให้มีการพิจารณาเพื่อระงับการเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามเว็บเพจ รวมถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะคล้ายกันนั้น ขณะนี้ศาลได้มีคำสั่งออกมา 3 ฉบับ คือ คำสั่งฉบับวันที่ 27 มิถุนายน 2551 ให้ระงับการแพร่หลายของข้อมูลจำนวน 9 เว็บเพจ คำสั่งฉบับวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ให้ระงับการแพร่หลายของข้อมูลจำนวน 63 เว็บเพจ และคำสั่งฉบับวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอีก 344 เว็บเพจ และกระทรวงฯ ได้มีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้สืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ซึ่งสำนักงานตำตรวจฯ ก็ได้รับเรื่องร้องทุกข์แล้ว และกำลังดำเนินการเร่งรัดสอบสวนหาข้อมูลในคดีดังกล่าว
ส่วนเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ข้อความและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในเรื่องอื่น ๆ นั้น กระทรวงฯ ได้ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายแล้วหลายเว็บ ได้แก่ เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาจำนวน 2 เว็บเพจ คือ http://www.cafepress.com และ www.pornbudda.com เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมลามกอนาจาร 1 เว็บเพจ คือ www.3feel.com และเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร จำนวน 5 เว็บเพจ
นอกจากนี้ที่ผ่านมากระทรวงฯ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าจับกุมและอายัดระบบคอมพิวเตอร์ที่เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร และเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายผิดกฎหมาย รวมทั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งผู้สนับสนุนและผู้เผยแพร่ รวมทั้งยังได้เข้าจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเล่น Camfrog ที่จังหวัดราชบุรี จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่เพลงลามกอนาจาร และเข้าตรวจค้นผู้สนับสนุนการเผยแพร่ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกจับกุมดังกล่าวอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต่อไป
“กระทรวงฯ ยังได้ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตาม พ.ร.บ.ฯ เช่น การรับเรื่องร้องเรียน การสืบค้นข้อมูลตามอำนาจหน้าที่ การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาผู้กระทำความผิด การสอบสวนคดีความที่เกี่ยวกับความผิดทางคอมพิวเตอร์กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทุกคดีที่มีการร้องขอมา รวมทั้งกระทรวงฯ ยังได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อมูล แหล่งที่มาของผู้กระทำความผิด สืบสวนหาข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ เช่น IP Address ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 — กรกฎาคม 2551 แล้วประมาณ 300 กว่าเรื่อง นอกจากนี้กระทรวงฯ ได้เน้นถึงภารกิจการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฯ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคในระยะที่ผ่านมา รวมทั้งมีการประชุมหารือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อให้ตรวจสอบและระมัดระวังการกระทำความผิดและรับผิดชอบต่อสังคมด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์หรือ ICT COP ขึ้น เพื่อให้มีการประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพในการปราบปรามยิ่งขึ้น” ดร.มั่น กล่าว