กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--ก.พ.
วานนี้ (จันทร์ที่ 8 กันยายน 2551) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.พ. ครั้งที่ 9/2551 ณ ห้องประชุม 3210 สำนักงาน ก.พ. จังหวัดนนทบุรี โดยที่ประชุมได้พิจารณาวาระต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ. 2551 ดังนี้
1. เห็นชอบ ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ซึ่งกำหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการหรือเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญไว้ 7 โรค คือ วัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคติดยาเสพติดให้โทษ โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคไตวายเรื้อรัง โรคสมองเสื่อม และโรคทางจิตเวชในระยะที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่
2. เห็นชอบ ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญรับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน ซึ่งกำหนดให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ และขาดจากอัตราเงินเดือนในตำแหน่งเดิม โดยให้รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน ได้ 6 กรณี คือ กรณีที่ 1 ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ กรณีที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ลาติดตามคู่สมรส ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ กรณีที่ 3 ได้รับทุนรัฐบาลตามระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยทุนของรัฐบาลให้ไปศึกษาหรือฝึกอบรมในต่างประเทศ กรณีที่ 4 ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศตามระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการ โดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ กรณีที่ 5 เมื่อข้าราชการพลเรือนสามัญไม่อาจปฏิบัติงานให้สัมฤทธิ์ผลได้ตามเป้าหมายที่กำหนดในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือละเลยเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยอย่างยิ่งว่ามีพฤติกรรมในการผลิต การค้า การเสพ หรือการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และกรณีที่ 6 คือ เมื่อข้าราชการที่รับเงินเดือนในอัตราทดแทนจากกรณี 1 ถึง 4 กลับมาปฏิบัติงานภายหลังครบกำหนดระยะเวลาแล้ว แต่ส่วนราชการยังไม่กำหนดตำแหน่งในประเภทเดียวกันและระดับเดียวกันที่จะแต่งตั้ง
3. เห็นชอบ ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง สำหรับใช้เป็นบรรทัดฐานในการจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในส่วนราชการต่างๆ เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทบริหาร แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับต้นและระดับสูง ประเภทอำนวยการ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับต้น และระดับสูง ประเภทวิชาการ แบ่งเป็น 5 ระดับคือ ระดับปฏิบัติการ ระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ ประเภททั่วไป แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ระดับปฏิบัติงาน ระดับชำนาญงาน ระดับอาวุโส และระดับทักษะพิเศษ
4. เห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ พ.ศ. .... ซึ่งบัญญัติขึ้นให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ซึ่งมีลักษณะที่ปฏิบัติงานเป็นการเฉพาะ
5. เห็นชอบ เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการในระหว่างการปรับใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 131 แห่ง พ.ร.บ. ฯ ดังกล่าว ที่บัญญัติโดยสรุปว่า เมื่อ ก.พ. จัดทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่งเสร็จ และจัดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญของทุกส่วนราชการเข้าประเภทตำแหน่ง สายงาน และระดับตำแหน่งมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง และประกาศใช้แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาสั่งแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ ก.พ.ประกาศ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 มกราคม 2552
เพื่อให้การจัดตำแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตาม พ.ร.บ. ฯ (การจัดคนลง) เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการกำหนดอัตรากำลัง การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ ก่อนที่จะมีการจัดคนลงตามระบบใหม่ ดังนี้
? กรณีการกำหนดอัตรากำลัง
ในหลักการ คือ ไม่มีการกำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่ คงกรอบอัตรากำลังรวมในแต่ละระดับไว้ หากมีการปรับปรุงตำแหน่งที่มีบุคคลดำรงตำแหน่งอยู่เป็นระดับต่ำลงกว่าเดิม ให้กำหนดเงื่อนไขไว้ ในกรณีมีการขอกำหนดตำแหน่งมาก่อนวันที่ 15 กันยายน 51 ก.พ. จะดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 11 ธันวาคม 51 หากมีการขอมาหลังจากนั้น จะส่งคืนส่วนราชการเว้นแต่มีเรื่องเร่งด่วน และให้ดำเนินการกำหนดตำแหน่งตาม กฎหมายใหม่ ทั้งนี้ ให้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ไม่ให้มีตำแหน่งที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งเพิ่มขึ้น และไม่ให้มีการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งจากสายงานเริ่ม 1 และ 2 เป็นสายงานเริ่ม 3
? กรณีการแต่งตั้ง
ในหลักการ คือ แต่งตั้งเท่าที่จำเป็น เร่งดำเนินการออกคำสั่งให้เสร็จภายในวันที่ 24 ตุลาคม 51 และหยุดดำเนินการออกคำสั่ง ตั้งแต่ วันที่ 25 ตุลาคม 51 ทั้งนี้ หลังจาก วันที่ 24 ตุลาคม 51 หากมีความจำเป็นต้องแต่งตั้งให้ใช้การสั่งรักษาการฯ โดยอาจออกคำสั่งย้อนหลังกรณีมีคุณสมบัติครบ หลังจากการจัดคนตามระบบใหม่เสร็จแล้ว การประเมิน ว/วช./ชช. สามารถดำเนินการได้หากมีคุณสมบัติครบก่อน 11 ธันวาคม แต่ให้ออกคำสั่งหลังการจัดคนลง ทั้งนี้ การบรรจุ ทำได้ในกรณีนักเรียนทุน หรือบัญชีสอบที่จะถูกยกเลิก
? กำหนดเวลาการส่งร่างบัญชีตำแหน่งและข้าราชการให้สำนักงาน ก.พ. ตรวจสอบ ดังนี้ กรมที่มีอัตรากำลังไม่เกิน 1,000 อัตรา ส่งภายในวันที่ 31 ตุลาคม 51 กรมที่มีอัตรากำลัง 1,000 อัตราขึ้นไป ส่งภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 51