กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--สสส.
นับเป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนของสังคมไทยในปัจจุบัน ในการผลักดันโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ ลด ละ เลิก ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มประเภทนี้มีความรุนแรงและส่งผลกระทบในทุกมิติของสังคม โดยมีเหล้าเป็นต้นเหตุแห่งปัญหา สร้างความทุกข์รุกรานความอยู่ดีมีสุขของผู้คนตลอดมา
นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงปัญหาต่างๆที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า “ผลของดื่มเหล้ามีมากเหลือเกิน ถ้าประมวลเอาความผิดทั้งหลายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยพบว่าสาเหตุมาจากเหล้าทั้งนั้นอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง บทสรุปของสังคมในปัจจุบันก็คือ เหล้าเป็นสาเหตุนำไปสู่ปัญหาสารพัด ทั้งความยากจน อุบัติเหตุ สุขภาพ และความทุกข์ทั้งปวง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือปีนี้จังหวัดอุบลราชธานีได้มีการรณรงค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ผลดีมากสถิติของจำนวนผู้บาดเจ็บและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลง ซึ่งเรื่องนี้หากผู้ใหญ่บ้าน กำนันช่วยกันรณรงค์ดูแลลูกบ้านลดละเลิกเหล้าและการพนัน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาความยากชนเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชนได้”
ด้วยเหตุนี้ โครงการเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดอุบลราชธานี และ ภาคีความร่วมมือ “อุบลสร้างสุขพ้นทุกข์จากเหล้า” ซึ่งประกอบด้วยองค์กรภาครัฐ และภาคประชาชนในจังหวัดรวมถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ “อุบลสร้างสุขพ้นทุกข์จากเหล้า” เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ณ วัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ลด ละ เลิกการดื่มเหล้า โดยได้มีการกำหนดวันงดดื่มสุรา เช่น “วันพระชาวพุทธควรหยุดเหล้า” และการสนับสนุนให้คนอุบลทั้งจังหวัดร่วมกัน “งดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง” และ “หมู่บ้านงดเหล้าเข้าพรรษาถาวร”
โดยล่าสุดได้มีการแถลงข่าวและประกาศนโยบาย “วัดเป็นสถานที่ปลอดเหล้า” โดยให้วัดทุกวัดในจังหวัดอุบลราชธานีเป็นสถานที่ปลอดเหล้าอย่างถาวรห้าขาย ห้ามดื่ม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมี นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานการจัดงาน เพื่อเป็นการรณรงค์แลบะสร้างจิตสำนึกให้กับชาวจังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ทุกวัดในจังหวัดอุบลฯ จัดงานทอดกฐินปลอดเหล้า เชิญชวนเจ้าภาพงานกฐินให้เห็นคุณค่าความหมายที่แท้จริงของงานบุญ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ได้นำไปสู่การสร้าง “หมู่บ้านปลอดเหล้าถาวร” ซึ่งปัจจุบันมีหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จในการประกาศจุดยืนเป็น “หมู่บ้านปลอดเหล้าถาวร” ในจังหวัดอุบลราชธานี ไม่ดื่ม ไม่มี ไม่ขายเหล้า คือ “หมู่บ้านโนนมะเขือ” ต.กาบิน อ.กุดข้าวปุ้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือร่วมผู้นำด้านศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน โดยมีการรณรงค์ให้ชาวบ้านเห็นโทษและพิษภัยของการดื่มเหล้าจนลด ละ เลิก ในที่สุด
พระครูสุภกิจมงคล เจ้าอาวาสวัดโนนมะเขือ กล่าวถึงแนวทางการสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านโนนมะเขือเพื่อร่วมกันลดละเลิกการดื่มเหล้าว่า “เริ่มต้นจากเรียกคนในชุมชนมาขอแผ่บิณฑบาต ด้วยการขอว่าในวัดอย่าให้มีเหล้าได้ไหม แล้วก็ขึ้นป้ายว่าเป็นวัดปลอดเหล้า หลังจากนั้นก็ขอความร่วมมือไปทีละน้อย อย่างเช่น ในงานศพก็อธิบายว่ามีคนจัดงานมีแต่ความโศกเศร้า ยังจะกินเหล้าสนุกสนานกันอีกหรือ ถัดมาก็เป็นงานมงคลสมรส ก็อธิบายว่า ถ้ากินเหล้าแล้วเกิดทะเลาะกันบาดเจ็บแล้วมันจะยังเป็นงานมงคลได้อีกหรือ ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาก็เสมือนเป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เพราะศีลข้อ 5 เป็นเหมือนบันไดขั้นแรกของการทำไม่ดี ทุกวันนี้ครอบครัวมีปัญหาส่วนหนึ่งก็เพราะเหล้า หากลด ละ เลิกเหล้าได้ก็จะเป็นการดีต่อตนเองและครอบครัว”
เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นแต่ประโยชน์ของการเลิกดื่มเหล้า ชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นๆ ของตำบลกาบินจึงเริ่มเห็นความสำคัญ และเข้าร่วมโครงการตำบลงดเหล้าเข้าพรรษา โดยรวมกันลดละเลิกการดื่มเหล้าในในเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ โดยผลที่เกิดขึ้นและเห็นได้อย่างชัดเจนกับชาวบ้านในตำบลกาบินนั่นก็คือเรื่องของสุขภาพ ทุกคนสุขภาพที่ดีขึ้น
ด้าน นายลำพูน ฉวีวัต สาธารณสุขอำเภอกุดข้าวปุ้น กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุราและผลในการพลักดันในเรื่องนี้ว่า “ปัญหาที่เกิดจากสุราที่เห็นได้ชัดเจนมักพบเห็นได้เสมอ คือเรื่องวัยรุ่นตีกัน ปัญหาทะเลาะวิวาท ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาสังคม และส่งผลกระทบถึงครอบครัว เศรษฐกิจอย่างชัดเจน แต่เมื่อโครงการนี้เริ่มเกิดขึ้น ปัญหาต่างๆ อันเป็นผลจากสุราก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด”
นางวิจิตร ผดุงวิทย์ หัวหน้าสถานีอนามัยตำบลกาบิน กล่าวถึงสุขภาพของคนในชุมชน ต.กาบิน ในปัจจุบันว่า “สุขภาพของคนในชุมชนทั้งก่อนและหลังดำเนินโครงการ มีความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยก่อนเริ่มโครงการพบว่าสถิติผู้ป่วยที่มีต้นเหตุมาจากสุราสูงมาก ทั้งจากการเกิดอุบัติเหตุ และอาการเจ็บป่วยจากสุราเช่น วิงเวียนศรีษะ แล้วไปขอรับบริการที่สาธารณสุข แต่เมื่อดำเนินโครงการฯ และได้ประเมินผลพบว่าจำนวนผู้ป่วยลดลงมาก วัดผลจากการคัดกรองสุขภาพรายบุคคลปรากฏว่า ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้นมาก”
นอกจากเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ในแง่ของชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นตามลำดับ ปัญหาความรุนแรงต่างๆ ในครอบครัวก็ลดน้อยลงไป รายได้ก็เพิ่มมากขึ้นและมีเงินเหลือเก็บมากขึ้นอย่าง นายวัลลภ ธรรมเที่ยง อายุ 55 ปี ชาวบ้านโนนมะเขือที่มีนิสัยกินเหล้าไม่แพ้ในโฆษณา จน เครียด กินเหล้า แต่ปัจจุบันเลิกดื่มเหล้ามาแล้ว 5 ปี เล่าว่าชีวิตก่อนหน้านี้แย่มากเพราะได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปลงกับเหล้าทั้งหมดไม่เคยถึงลูกเมีย เสียงานเสียการ แต่หลังเลิกเหล้าแล้วประหยัดเงินไปได้เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท
“ที่สามารถเลิกเหล้าได้เพราะหลวงพ่อเรียกไปอบรมให้เห็นถึงข้อเสียของเหล้า ตอนนั้นก็รู้สึกว่าเราสุขภาพไม่ดี เหนื่อยง่าย ทำงานได้มาเท่าไหร่เงินก็ไม่มีเหลือ จึงตัดสินใจเลิก ช่วงเลิกใหม่ๆ ก็อยากกิน อยากไปกับเพื่อน แต่ก็ห้ามใจจนสามารถเลิกได้ ส่วนตอนนี้สุขภาพแข็งแรงดีแล้ว และเราก็บอกเพื่อนๆ ให้เลิกเหล้าบ้าง จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น”
ด้าน นายสุวรรณ อุปกาญจน์ อายุ 46 ปี เจ้าของฉายา “วันไฟดับ” ที่เวลากินเหล้าแล้วเมาไม่เลิกจนร้านค้าและเพื่อนบ้านต้องปิดไฟหนีเพราะไม่มีใครอยากคุยด้วย แต่ปัจจุบันเลิกเหล้ามานานกว่า 5 ปี บอกว่าสิ่งที่รู้สึกได้หลังเลิกดื่มเหล้าก็คือสุขภาพดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นเพราะมีเงินเหลือ ความรุนแรงในครอบครัวก็ลดลง จากเดิมที่มีวัวเพียง 1 ตัว ปัจจุบันก็มีถึง 6 ตัว และครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
“หลังจากเลิกเหล้าชีวิตดีขึ้นมาก แต่ก่อนไม่มีวัวมีควายเลย เพราะมีงานเลี้ยงที่ไหนก็ไปกินเหล้า กินจนไม่ได้ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว แต่พอเลิกแล้วก็เอาเวลามาทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควายจนมีเงินเหลือเยอะขึ้น ตอนนี้ไม่มีหนี้สินอะไร พออยู่พอกิน ครอบครัวมีความสุข มีเงินส่งให้ลูกเรียน และมีเงินเหลือใช้ในครอบครัว”
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการผลักดันมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับการลด ละ เลิกการดื่มเหล้าว่า ปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีความรุนแรงมากทำลายทั้งเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในทุกมิติ
“เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำลายความสงบสุขตั้งแต่ในครอบครัว โดยมีงานวิจัยจากมูลนิธิเพื่อนหญิงพบว่าความรุนแรงในครอบครัวจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่าเมื่อเทียบกับครอบครัวที่ไม่มีคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางสถาบันรามจิติ ก็ได้มีการเฝ้าระวังปัญหาต่างๆ ของเยาวชน และก็มีการระบุว่าในปีหนึ่งๆ นั้นมีเด็กที่ท้องก่อนวันอันควรถึงปีละ 5 หมื่นกว่าคน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนก็มีข้อมูลว่า เด็กที่เข้าไปอยู่ในสถานพินิจฯ นั้นเกือบครึ่งหนึ่งพบว่ากระทำความผิดภายหลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปตั้งแต่ 1-5 ชั่วโมง แล้วก็จะทำผิดรุนแรงมากกว่าเด็กที่ไม่ดื่ม สรุปว่าเด็กไทยของเรานั้น ท้อง แท้ง ติดเอดส์ ติดคุก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญ รวมไปถึงอุบัติที่เหตุที่เรานั่งนับศพในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ นั้น ปีหนึ่งๆ เรามีผู้เสียชีวิตจากเรื่องนี้ไม่ตำกว่าหมื่นคน น้ำเมาก็เป็นต้นเหตุเกือบครึ่งหนึ่งของสาเหตุทั้งหมด ซึ่งไม่นับรวมกับผู้บาดเจ็บที่มีอีกเป็นล้านคน ซึ่งเป็นความสูญเสียทั้งแง่มุมของเศรษฐกิจและสังคม รวมๆ แล้วเหล้าและสุราสร้างความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้นการดำเนินงานต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายควรต้องร่วมมือกันแก้ไข” นายสงกรานต์กล่าวสรุป.
สอบถามข้อมูล
ปุณณดา
เบอร์โทรศัพท์ : 0813580687