กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--อาร์เอส
เดินทางไปศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดูเต่าจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บและป่วย เนื่องจากมีคนใจบุญแต่ไม่รู้วิธีปล่อย เอก-ชมะนันทน์ และ เจี๊ยบ-โสภิตนภา 2 พิธีกรรายการ “ฟ้าเมืองไทย” เลยพาไปพบและขอข้อมูลจากผู้รู้ รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ (หมอหนิ่ง) ผอ.ศูนย์ฯ และรองประธานชมรม รักษ์เต่า เพื่อปลูกจิตสำนึกแนวใหม่ให้กับคนใจบุญ
ก่อนที่จะมีการถ่ายทำ เอก และ เจี๊ยบ ได้เข้าไปชมโรงพยาบาลเต่าขนาดย่อมในศูนย์ฯ เพื่อดูสภาพและหาข้อมูลการทำงานในครั้งนี้ หลังจากที่ทั้งสองออกมา ก็ได้มีการพูดคุยกันถึงความน่าสงสารของเหล่าบรรดาเต่าที่ได้พบเห็นมา ซึ่งแต่ละตัวก็มีอาการแตกต่างกันไป เช่นกระดอกแตกจากการถูกรถทับ กระดองเน่าจากการถูกน้ำสกปรกในบ่อกัด และเต่าที่ได้รับการรักษาส่วนใหญ่เป็นเต่าที่ทางชมรมฯ ได้ไปรับมาจากวัดต่างๆ เนื่องจากมีคนนำไปปล่อยจำนวนมาก แต่สภาพของบ่อที่นำไปปล่อยนั้นไม่เหมาะกับธรรมชาติของเต่า หลังจากที่ทุกอย่างพร้อม หมอหนิ่ง ได้มาพูดถึงข้อมูลต่างๆ ที่คนใจบุญควรทำก่อนจะตัดสินใจนำเต่าไปปล่อย เริ่มจากการเลือกประเภทของเต่า ซึ่งมีเต่าบกและเต่าน้ำ ตรวจดูสุขภาพว่าแข็งแรงพอมั้ย นอกจากนี้ยังต้องดูอีกว่าเป็นเต่าที่กินพืชหรือกินเนื้อ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจว่าควรจะนำไปปล่อยที่ไหน หลังจากที่ให้ข้อมูลไปพอสมควรแล้ว หมอหนิ่ง จึงพาเข้าไปชมสถานพยาบาลเต่า ซึ่งนอกจากจะพาเยี่ยมชมอาการเต่าแต่ละตัวแล้ว หมอหนิ่ง ยังได้ทำการรักษาล้างแผลให้กับเต่าจรจัดตัวหนึ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถทับจนกระดองแตก และฉีดยาปฏิชีวนะให้ด้วย ซึ่งในช่วงที่ฉีดยานี้เองที่ทำให้ เอก และ เจี๊ยบ รู้สึกสงสารเต่าขึ้นมาจับใจ เพราะเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของมันนั่นเอง โดย หมอหนิ่ง ได้เปิดใจว่า “ความจริงแล้วไม่ได้ต่อต้านการทำบุญนะคะ เพียงแต่ว่าอยากให้ทำให้ถูกวิธีและเลือกเต่าให้ถูกประเภท อยากฝากบอกคนทำบุญและหมอดูทุกท่านที่แนะนำให้เขาไปปล่อยเต่า เราควรจะรู้ข้อมูลและธรรมชาติความเป็นอยู่ของเต่าก่อนที่จะปล่อย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำบุญได้ ลองเปลี่ยนจากการปล่อยเต่ามาเป็นให้ยาหรือรับอุปการะเต่าจรจัดก็ได้ เพราะชีวิตเต่าก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตเหมือนกันค่ะ” ส่วนใครที่อยากปล่อยเต่าให้ถูกวิธีหรืออยากทำบุญกับน้องเต่า ห้ามพลาด! รายการ “ฟ้าเมืองไทย” วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2551 เวลา 22.00-22.55 น. ทางช่อง 5