กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“กระเบื้องหลังคาตราเพชร” ต่อยอดธุรกิจ จับตลาดผนังสำเร็จรูป คิดระบบการก่อผนัง “แซนด์วิช บอร์ด” (Diamond Sandwich Board) นวัตกรรมใหม่ของวงการก่อสร้าง ประเดิมโครงการแรก จับมือ บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง สร้างบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง 10 เผยข้อดีของระบบช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลา และลดปัญหารอยแตกร้าว
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคาตราเพชร รุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และรุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดสินค้าในกลุ่มกระเบื้องหลังคา ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ ล่าสุด บริษัทฯ ได้หันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผนังเบาสำเร็จรูปตราเพชร หรือเรียกว่า “ผนังแซนด์วิชบอร์ด” (Diamond Sandwich Board) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ของการก่อสร้างและถือว่าเราเป็นแห่งแรกที่เริ่มเปิดตัวระบบการก่อผนังเบาสำเร็จรูปนี้ขึ้นมา
“บริษัทฯ ได้พัฒนาผนังสำเร็จรูปตราเพชร ซึ่งเป็นระบบการก่อผนังที่ตอบสนองเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยระบบดังกล่าวนี้ต้องถือว่าเราเป็นเจ้าแรกที่เริ่มนำเข้ามาใช้ในวงการวัสดุก่อสร้าง โดยที่ระบบนี้จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานก่ออิฐฉาบปูนผนังที่มีฝีมือ เนื่องจากว่าผนังแซนด์วิชบอร์ด จะเป็นผนังที่มีผิวเรียบมาก เพราะเป็นแผ่นบอร์ดทั้งแผ่น ทำให้ไม่เกิดปัญหาการแตกร้าว ซึ่งการก่อสร้างรูปแบบนี้ จะเหมาะสมกับการก่อสร้างในรูปแบบของอาคารสูง และคอนโดมิเนียม เป็นอย่างมาก ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยในเวลานี้” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มนำร่องระบบการก่อผนังสำเร็จรูป โดยร่วมกับทาง บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ในโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง10/1 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะใช้เป็นโครงการอ้างอิง เพื่อโอกาสขยายตลาดต่อไป
สำหรับข้อดีของการก่อผนัง ระบบ Diamond Sandwich Board จะช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน เนื่องจากประหยัดค่าแรงในการก่อสร้าง และใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยกว่าการก่อผนังอิฐทั่วไป เก็บงานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และมีอัตราความเสียหายจากการทำงานน้อย เนื่องจาก ใช้วัสดุประกอบไม่มากและมีการเชื่อมต่อน้อย
ด้านคุณสมบัติของระบบ มีน้ำหนักทั้งระบบน้อยกว่าการก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป ขณะเดียวกันยังมีคุณสมบัติการนำความร้อน การป้องกันเสียง และการป้องกันไฟใกล้เคียงอิฐมวลเบา นอกจากนี้ยังพบปัญหาการแตกร้าวในการใช้งานหลังสร้างเสร็จน้อยกว่าการฉาบปูนก่อผนังอิฐทั่วไป อีกทั้งยังให้ความรู้สึกแก่ผู้อยู่อาศัย ว่าเป็นผนังทึบและแข็งแรง ไม่เปราะกลวง อีกด้วย
รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด DRT กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากำลังซื้อในประเทศปรับตัวลดลง เนื่องจากว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น บวกกับมีความกังวลทางเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก ปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานบ้าง ทำให้ DRT ไม่หยุดนิ่งที่จะหาช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้ จึงได้ขยายธุรกิจจับตลาดผนังสำเร็จรูป ซึ่งมองว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนนวัตกรรมการก่อสร้าง ขณะเดียวกันบริษัทฯ คาดว่าหากสายการผลิตที่ 9 เพื่อผลิตไม้ฝาโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2553 จะทำให้ในอนาคตรายได้จะเติบโต และสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้
ทั้งนี้ สินค้าและบริการของ DRT แบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ประกอบด้วย กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement Tile), กระเบื้องคอนกรีต (Concrete Tile), ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ (Siding Board), อุปกรณ์ประกอบหลังคา (Accessories), และบริการหลังการขาย (Technical Service)
บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน “ คุณภาพต้องมาก่อน ทุกขั้นตอนของสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำค่า ถึงลูกค้าพึงพอใจ”
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ในนาม
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : [email protected]
- ๒๔ ธ.ค. โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ STI และพันธมิตร เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตและพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง ผ่านกิจกรรม CSR
- ธ.ค. ๒๕๖๗ DCAP ประกาศเริ่มโปรเจคท์การผลิตและจำหน่ายน้ำเย็นอาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ PLE เป็นผู้ก่อสร้างโครงการฯ
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ถอดบทเรียนความสำเร็จ 3 ทศวรรษ “สร้าง-บริหาร-พัฒนา-ส่งเสริม” แบบฉบับเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง กับการเติบโตสู่อนาคตอย่างยั่งยืน