กทม. ร่วมผลักดัน “แท็กซี่ปอดสะอาด” สร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร

พุธ ๒๔ กันยายน ๒๐๐๘ ๑๔:๒๖
กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--กทม.
กทม. จับมือ สธ. และสมาคมปราบวัณโรคฯ จัดโครงการแท็กซี่ปอดสะอาด บริการรถเอ็กซเรย์ปอดคนขับแท็กซี่ฟรี ชี้รถแท็กซี่เมืองกรุง เอื้อต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคทางเดินหายใจ
นพ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิดโครงการใส่ใจสุขภาพปอด : แท็กซี่ปอดสะอาด ซึ่งกระทรวงสาธารณะสุข สมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรุงเทพมหานคร ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2551 โดยเปิดตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรก เนื่องจากมีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากกว่า 1 แสนคนต่อวัน ต้องใช้บริการรถแท็กซี่จำนวนมาก ซึ่งรถแท็กซี่ถือเป็นจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรค เพราะติดแอร์และใช้อากาศหมุนเวียนภายใน รถแบบระบบปิด ไม่มีการถ่ายเทอากาศกับภายนอกรวมทั้งผู้ขับรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาจากต่างจังหวัด และไม่เคยได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีมาก่อน
โดยในวันนี้สมาคมปราบวัณโรคฯ สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครได้จัดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่จำนวน 3 คัน ให้บริการตรวจเอ็กซเรย์ปอดที่จุดจอดพักรถแท็กซี่ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารแล้ว ยังสื่อถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่จะกำจัดวัณโรคให้หมดไปด้วย
ภายหลังจากนี้ รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ทั้ง 3 คัน จะออกให้บริการเอ็กซเรย์ปอดให้ผู้ขับขี่แท็กซี่ฟรี ในจุดที่มีแท็กซี่หนาแน่น อาทิ สถานีขนส่งต่างๆ หมุนเวียนไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 51 โดยตั้งเป้าครอบคลุมผู้ขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพมหานครประมาณ 100,000 คัน สำหรับผู้ที่ตรวจไม่พบความผิดปกติของปอดจะได้รับสติ๊กเกอร์รับรองผ่านการตรวจสำหรับติดในรถ ส่วนผู้ที่ผลเอ็กซเรย์ผิดปกติจะถูกส่งไปรับการตรวจเพิ่มเติม หากพบว่าเป็นผู้ป่วยวัณโรคปอดจะได้รับการรักษาจนหายขาด ทั้งนี้จะมีการเก็บข้อมูลผู้ขับรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจแล้ว เพื่อติดตามมารับการตรวจในปีต่อๆ ไป และปรับแนวทางการตรวจสุขภาพให้สะดวก เหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมผู้ขับรถแท็กซี่มากขึ้น
ทั้งนี้ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของวัณโรคในประเทศไทยว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 22 ประเทศที่ยังมีอุบัติการณ์ของวัณโรคสูงมากถึงปีละ 90,000 ราย โดย 40,000 รายเป็นกลุ่มที่อยู่ในระยะแพร่เชื้อ และความชุกของวัณโรคจะยิ่งสูงขึ้นในกลุ่มประชากรที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐาน หรืออาศัยในที่แออัด พร้อมกันนี้ได้แนะนำผู้ขับรถแท็กซี่ที่ต้องรับผู้โดยสารที่มีอาการไอ จาม ให้ปรับระบบถ่ายเทอากาศในรถเป็นระบบเปิด เพื่อให้อากาศภายนอกถ่ายเทเข้ามาในรถ ทำให้เชื้อในอากาศลดลง และเมื่อผู้โดยสารลงจากรถแล้ว ควรเปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ