กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--บลจ.แอสเซท พลัส
แอสเซท พลัส สนองความต้องการลูกค้ากังวลปัญหาสถาบันการเงินต่างประเทศ เสนอขายกองทุนแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 2 (ASP-ACFIXED2)
ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนในประเทศ
บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขายกองทุน ASP-ACFIXED2 ระหว่างวันที่ 2-8 ตุลาคม นี้ รอบการลงทุนแรก 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ พร้อมโอกาสรับผลตอบแทน 3.65%** ต่อปี
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนในช่วงนี้ค่อนข้างมีความผันผวนจากปัญหาสถาบันการเงินต่างประเทศ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างรอความชัดเจนของร่างแผนการฟื้นฟูด้านการเงินของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งในด้านของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่ที่มีความกังวลในสถาบันการเงินต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศแทน ซึ่งผู้ลงทุนค่อนข้างวางใจ และสามารถเข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้มากกว่า แม้ว่าผลตอบแทนที่ได้จากตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศจะอยู่ในระดับสูงกว่าก็ตามเพื่อรองรับกลุ่มผู้ลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ จึงเสนอขายกกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 2 (ASP-ACFIXED2) ระหว่างวันที่ 2-8 ตุลาคมนี้ โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยที่มีความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยสูงจากการได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- ขึ้นไป โดยมีระยะเวลาลงทุนพียง 3 เดือน และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับใกล้เคียงกับการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 2 (ASP-ACFIXED2) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยมีรอบระยะเวลาการลงทุนแบบยืดหยุ่นที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทนตามภาวะตลาดตราสารหนี้ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ รอบระยะเวลาการลงทุนแรกของกองทุน จะลงทุนระยะสั้น 3 เดือน เพื่อรอความชัดเจนของตลาดเงินที่จะมีผลต่ออัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง และจะลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพของบริษัทเอกชนไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย บมจ.บัตรเครดิตกรุงไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาเตอร์ด และควอลิตี้ เฮ้าส์ ทั้งนี้ คาดว่าตราสารของพอร์ตการลงทุนดังกล่าวที่ระดับ 3.95%* ต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.30% แล้วจะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ 3.65%** ต่อปี
“เราคาดว่า หลังจากที่สถานการณ์ด้านการเงินในต่างประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ลงทุนจะเริ่มกลับมามั่นใจในการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเช่นเดิม ซึ่งในช่วงนี้ตราสารหนี้เอกชนหรือสถาบันการเงินในประเทศที่มีความมั่นคง ก็สามารถให้ผลตอบแทนในระดับจูงใจในช่วงที่ผู้ลงทุนยังมีความกังวลกับตราสารหนี้ต่างประเทศขณะนี้” นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า บลจ. แอสเซท พลัส โทรศัพท์ 02-672-1111 หรือติดต่อตัวแทนสนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
* ที่มา: สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ 25 กันยายน 2551
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: [email protected]
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]
- พ.ย. ๒๕๖๗ Hattha Bank ประสบความความสำเร็จในการขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทอีกครั้ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ 3 แห่ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ 5 สถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสำหรับ บล.โนมูระพัฒนสิน