นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันกรมศุลกากรได้เร่งรัดให้มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และสินค้าต้องห้ามต้องกำกัด ที่ลักลอบนำเข้ามาในและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ผ่านทางเขตแดนทางบกและท่าอากาศยานทั่วประเทศ ตามนโยบายปกป้องสังคม และได้มีการสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนโคคาอีนด้วยวิธีการกลืนเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการวางแผนจับกุม
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ตรวจค้นผู้ต้องสงสัยเพศหญิง ชื่อ Ms. Nomasonto Lesiah Mbatha อายุ 27 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ ถือหนังสือเดินทางประเทศแอฟริกาใต้เลขที่ 460765121 ซึ่งเดินทางมาจาก เมืองโบโนสแอร์เลส ประเทศอาเจนตินา ผ่านเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ผ่านเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ MH202 และ MH784 ตามลำดับ ซึ่งมีรายละเอียดและลักษณะการเดินทางตรงตามข้อมูลการจัดการความเสี่ยงด้านยาเสพติดของกรมศุลกากร
จากผลการตรวจค้น สัมภาษณ์ และเอ็กซเรย์ Ms. Nomasonto Lesiah Mbatha ซึ่งเดินทางมากับเที่ยวบินที่ MH784 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เวลา 10.15 น. พบว่ามีวัตถุลักษณะคล้ายแคปซูลอยู่ภายในช่องท้องเป็นจำนวนมาก และต่อมาพิสูจน์ทราบว่าเป็นยาเสพติดประเภทโคคาอีน จำนวนมากถึง 100 แคปซูล น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,200 กรัม ซึ่งมีมูลค่าในประเทศไทยกว่า 5 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2528 ฉบับที่ 2 เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป