บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ถูกตรวจค้นข้อหาใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนประเดิมโครงการป้องปรามการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ศุกร์ ๒๔ ตุลาคม ๒๐๐๘ ๑๑:๓๕
ตำรวจไทยโชว์ผลงานเข้าตรวจค้นจับกุมบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ รวมมูลค่าซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดทั้งสิ้นกว่า 1.25 ล้านบาท โดยบริษัทถูกตั้งข้อหาว่าใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 68 เครื่อง

“เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด” พ.ต.อ. ศรายุทธ พูลธัญญะ รองผู้บังคับการ กองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก. ปศท.) กล่าว “เราจะเดินหน้าจัดการกับธุรกิจที่ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ต่อไป”

บุคคลต่างๆ ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ต่างชื่นชมความพยายามของบก. ปศท. ที่มุ่งมั่นลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของไทยที่ปัจจุบันมีอัตราสูงถึง 78% ของปริมาณการใช้ซอฟต์แวร์ทั้งหมด

มร. ดรุณ ซอว์นีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ประจำภูมิภาคเอเชียของบีเอสเอกล่าว ชื่นชมผลงานของบก. ปศท. ในครั้งนี้ว่า “ตำรวจไทยทำงานได้ดีเยี่ยม ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไอทีได้ แต่ปัจจุบันศักยภาพนี้ถูกบดบังด้วยปัญหาซอฟต์แวร์เถื่อน เจ้าหน้าที่ไทยกำลังแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาโดยการมุ่งมั่นป้องปรามซอฟต์แวร์เถื่อนอย่างจริงจัง”

นอกจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ตำรวจยังส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริษัทที่ต้องสงสัยว่าละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อีก 5 แห่ง การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาผ่อนผันเพื่อให้ธุรกิจปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ตรวจพบมีทั้งซอฟต์แวร์ของบริษัทต่างชาติและของบริษัทไทย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 4.8 ล้านบาท

การเข้าดำเนินการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการตรวจสอบและวิเคราะห์คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่พบ ปัจจุบันการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินอยู่ต่อไปโดยมุ่งเข้าไปที่บริษัทที่ได้รับรายงานว่ามีการกระทำที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

“อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์” นางสาวศิริภัทร ภัทรางกูร โฆษกคณะกรรมการกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ประจำประเทศไทยกล่าว “เราได้จัดสัมมนาเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ประเภทซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เราพูดคุยกับผู้นำธุรกิจโดยตรง และร่วมมือกับภาครัฐในโครงการรณรงค์ให้ความรู้ทั่วประเทศ เราตั้งใจจริงที่จะให้ความช่วยเหลือแต่ผู้นำองค์กรธุรกิจก็จำเป็นต้องให้ความร่วมมือโดยการปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน”

ถึงแม้สหรัฐอเมริกายังคงจัดให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ แต่ยังมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยได้เร่งประสานงานกับองค์กรธุรกิจต่างๆเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายของรัฐในการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ทางฝ่ายตำรวจเองก็ดำเนินการตรวจค้นจับกุมธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง

“เราเห็นว่าการป้องปรามซอฟต์แวร์เถื่อนเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศชั้นนำของโลกในเรื่องการบ่มเพาะนวัตกรรม เรามุ่งมั่นทำให้ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมรู้สึกว่าผลงานของตนได้รับการปกป้อง” พ.ต.อ. ศรายุทธกล่าว “เราจะเดินหน้าจัดการกับธุรกิจที่ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ของไทยต่อไปอย่างแน่นอน”

แม้ว่าจะมีความพยายามในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยก้าวไปสู่ตลาดระดับนานาชาติ แต่สถานการณ์ด้านซอฟต์แวร์เถื่อนเปรียบเสมือนตัวถ่วงที่บั่นทอนศักยภาพในการเติบโตของตลาดทั้งในและนอกประเทศ ซอฟต์แวร์หนึ่งที่พบว่าถูกละเมิดบ่อยคือซอฟต์แวร์พจนานุกรมภาษาไทย-อังกฤษที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทของไทยเอง

หากลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยลงได้ 10% ภายใน 4 ปีข้างหน้า จะเกิดการจ้างงานเพิ่ม 2,100 ตำแหน่ง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะมีมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 35,000 ล้านบาท) และรัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 55 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,275 ล้านบาท) ผลการศึกษาของไอดีซีเมื่อต้นปีนี้ระบุไว้เช่นนั้น

การศึกษาเดียวกันบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมไอทีมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย ในปีพ.ศ. 2550 ประเทศไทยใช้เงินเกือบ 120,000 ล้านบาท หรือราว 1.8% ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ไปกับเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อ อุปกรณ์เครือข่าย ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปและบริการด้าน ไอทีต่างๆ ไทยมีบริษัทด้านไอทีกว่า 5,600 บริษัท พนักงานด้านไอทีเกือบ 40,500 คน ซึ่งทำให้มีรายได้เข้ารัฐในรูปแบบภาษีที่เกี่ยวกับกิจการด้านไอทีราว 12,840 ล้านบาท

แต่ถึงอย่างนั้น รายได้จากภาคไอทีของประเทศอาจสูงขึ้นได้อีกหากอัตราการละเมิดลิขสิทธ์ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องพีซีลดลง 10% ภายในปีพ.ศ. 2554 และจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและบริษัทใหม่ๆ ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ รวมทั้งเป็นแหล่งทุนแก่การให้บริการของรัฐโดยไม่ต้องเก็บภาษีเพิ่ม

ยิ่งไปกว่านั้น การลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ยังมีผลดีแบบทวีคูณ การศึกษาของไอดีซีพบว่าทุกๆ 1 ดอลล่าร์ที่จ่ายไปเพื่อซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง อีก 1.25 ดอลล่าร์จะถูกจ่ายไปกับบริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องโดยผู้ให้บริการในประเทศ เช่น การติดตั้งซอฟต์แวร์ การอบรมบุคลากรและบริการบำรุงรักษา

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:

วีโร่ พับลิครีเลชั่นส์

อาทิมา ตันติกุล

[email protected]

+66 (0) 2684-1551

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO