ทั้งนี้บริษัทฯ จึงได้เตรียมออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั้ง 3 เดือน และ 6 เดือน อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 กองทุนในลักษณะซีรี่ส์ที่เน้นลงทุนในสถาบันการเงินในประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนศกนี้ โดยกองทุนแรกที่เปิดขายจะเป็นกองทุนเปิดทหารไทย ไพร์ม ฟันด์ 6M รุ่น 2 (TMB Prime Fund 6M2) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ด้วยมูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท เปิดขายระหว่างนี้จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้
นางโชติกา กล่าวว่า สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย ไพร์ม ฟันด์ 6M2 จะมีนโยบายลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วบี/อี เงินฝาก ระยะเวลา 6 เดือน ของสถาบันการเงินคุณภาพ 7 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยช์ แบงก์ และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) โดยจะครบอายุโครงการในวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ด้วยอัตรารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่น้อยกว่า 3.45% ต่อปี
“ถึงแม้สถานการณ์การเงินในต่างประเทศจะได้รับผลกระทบในวงกว้าง จนทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางในแต่ละประเทศประกาศนโยบายการให้ความช่วยเหลือที่ชัดเจนออกมาแล้ว แต่ความกังวลในเรื่องดังกล่าวยังคงมีอยู่ ซึ่งยังคงต้องติดตามสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง และหากพิจารณาแล้วจะเห็นว่าสถาบันการเงินภายในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะมีสภาพคล่องสูง และยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด หากลงทุนในระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือนแล้วถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ทุกสัปดาห์นับจากนี้เป็นต้นไป” นางโชติกากล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทย โทร.1725 หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัท ได้แก่ธนาคารทหารไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ:
PRdd ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
โทร. 02-953-8633, 02-953-8723
หรือ ลัคคณา บุษบา 089-488-1777 สุจิรา วิโรจนะ 081-629-1821