กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ร่วมมอบหลอดตะเกียบเบอร์ 5 แก่สำนักงาน กปร.

พุธ ๒๙ ตุลาคม ๒๐๐๘ ๑๑:๑๗
กฟผ. มอบหลอดตะเกียบเบอร์ 5 จำนวน 1,343 หลอด แก่สำนักงาน กปร. เพื่อนำไปลดการใช้พลังงานภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 แห่งทั่วประเทศ ผลจะสามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 300,000 บาทต่อปี และลดการปล่อย CO2 กว่าปีละ 48 ตันต่อปี

นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. มอบหลอดตะเกียบเบอร์ 5 ขนาด 13 วัตต์ จำนวน 667 หลอด และขนาด 20 วัตต์ จำนวน 676 หลอด รวม 1,343 หลอด แก่นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เพื่อใช้เปลี่ยนทดแทนหลอดไส้ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 6 แห่ง

นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ กล่าวว่า การมอบหลอดตะเกียบเบอร์ 5 แก่สำนักงาน กปร. เป็นนโยบายที่กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ กฟผ. ดำเนินการสนับสนุนฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 94,000 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 300,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 48 ตันต่อปี

นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดผลการรณรงค์ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 อย่างต่อเนื่อง กฟผ. จะดำเนินการเปลี่ยนหลอดประหยัดไฟฟ้าเป็นตัวอย่างนำร่องภายในวัด จำนวน 400 แห่ง และมัสยิดจำนวน 100 แห่ง ทั่วประเทศ ตามมาตรการ “วัด-มัสยิด...ประหยัดไฟ...รวมใจสมานฉันท์” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 มาตรการประหยัดพลังงานเพื่อประชาชน ที่กระทรวงพลังงานมอบหมายให้ กฟผ. ดำเนินการเพื่อเป็นต้นแบบเผยแพร่การประหยัดพลังงานในท้องถิ่น กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2552

ด้าน รองเลขาธิการสำนักงาน กปร. กล่าวขอบคุณ กฟผ. ที่ให้การสนับสนุนหลอดตะเกียบเบอร์ 5 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้รับประโยชน์สูงสุด และสามารถใช้เป็นตัวอย่างที่ดีในการขยายผลการประหยัดพลังงานสู่ภารกิจอื่น ๆ ควบคู่ไปกับเป็นการช่วยลดสภาวะ โลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ได้รับการเปลี่ยนใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา และศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๑ Kaspersky รายงานการขโมยข้อมูลธนาคารบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2024
๑๗:๐๐ Kaspersky เผย มัลแวร์ขโมยข้อมูลบัตรธนาคาร ปล่อยรั่วไหล 2.3 ล้านใบ
๑๗:๐๐ สมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย ปักหมุด คริสตัล สปอร์ต ทำ Tennis Clinic
๑๖:๔๙ เคพีเอ็น เปิดตัวกองทรัสต์ KPNREIT ปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกางแผนยกระดับสินทรัพย์และขยายพอร์ตการลงทุน
๑๖:๐๐ โชห่วยยาสูบโอด นายก อิ๊งค์ สั่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปล่อยบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง
๑๖:๐๑ แฟนคลับ เต็มอิ่ม! ใจฟู! กันถ้วนหน้า กับ THEE PAUSE B.O.B Blend Of Brothers Concert ครั้งแรกบนเวทีเดียวกันของ ธีร์ ไชยเดช และ
๑๖:๐๐ EMMA CLINIC เผยศัลยกรรม ทางเลือกเพื่อดึงความมั่นใจด้านความงาม อยากเปลี่ยนชีวิตใหม่ ต้องปั้นความเป๊ะปัง! แบบธรรมชาติ เจ็บน้อย
๑๖:๔๐ OMODA JAECOO พา JAECOO 6 EV คว้ารางวัล BEST OFF ROAD EV ในงาน CAR OF THE YEAR 2025 ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
๑๖:๓๙ ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ภายใต้แนวคิด กำแพงสังคมที่มองไม่เห็น ด้วยนวัตกรรมชุดตรวจ Urine
๑๖:๐๐ กทม. แจงหลักเกณฑ์ตั้งป้ายรถเมล์ คำนึงถึงความเหมาะสมกายภาพทางเท้า-ความสะดวกประชาชน