คุณพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานปฏิบัติการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์การเป็น The Convenience Bank หรือธนาคารแสนสะดวก เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าทั้งในด้านเครือข่ายและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ธนาคารยังได้พัฒนากระบวนการปฏิบัติงานด้านเช็คเรียกเก็บให้มีความทันสมัยและรวดเร็ว เพื่อลดระยะเวลาแจ้งผลการเรียกเก็บเช็คต่างธนาคาร โดยได้ติดตั้งโปรแกรมดูภาพเช็คและอนุมัติจ่ายโดยหักบัญชีอัตโนมัติ ที่ศูนย์หักบัญชีกรุงเทพฯ ในปี 2546 และภูมิภาคตั้งแต่ ปี 2549 ทำให้สามารถลดเวลาแจ้งผลเช็คเรียกเก็บเหลือเพียง 2 วัน และ 4 วัน ในพื้นที่ห่างไกล และล่าสุดธนาคารได้ติดตั้งโปรแกรมส่งข้อมูลเช็ค Online (ECS) ที่ศูนย์ปฏิบัติการเช็คชลบุรีและราชบุรี ทำให้สามารถแจ้งผลเช็คของธนาคารพาณิชย์อื่น ที่ตั้งอยู่ในเขตหักบัญชีกรุงเทพฯและปริมณฑล ภายในวันทำการถัดไป จากเดิมที่ต้องใช้ระยะเวลาถึง 4 วัน
“ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารแห่งแรกที่สามารถขยายพื้นที่สาขาในเขตหักบัญชีกรุงเทพฯและปริมณฑล ออกไปในเขตจังหวัดชลบุรีและจังหวัดราชบุรี ซึ่งครอบคลุมสาขาจำนวน 17 แห่ง และธนาคารมีแผนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย”
คุณพงศธร สิริโยธิน กล่าวต่อไปว่า ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารแรกที่จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเช็คภูมิภาค 9 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่ส่งเช็คเรียกเก็บ และหักบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของลูกค้าแทนสาขาในพื้นที่รับผิดชอบ และนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ในการพิมพ์เช็ค โดยพิมพ์ชื่อลูกค้าและหมายเลขบัญชีด้วยหมึกแม่เหล็กบนหน้าเช็คทุกฉบับ ทำให้มั่นใจว่าระบบเรียกเก็บเช็คของธนาคารจะสามารถรองรับนโยบายแลกเปลี่ยนเช็คด้วยภาพของธนาคารแห่งประเทศไทย (Imaged Cheque Clearing and Archive System) ที่จะเริ่มใช้ในปี 2552 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถรองรับการให้บริการด้านเช็คเรียกเก็บ (Insourcing) ให้แก่ธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ได้อย่างครบวงจร
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร.0-2208-4174-7