- หุ้นกู้ชุด DAD12NA มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2555
- หุ้นกู้ชุด DAD15NA มูลค่า 2.0 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2558
- หุ้นกู้ชุด DAD20NA มูลค่า 1.8 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2563
- หุ้นกู้ชุด DAD25NA มูลค่า 5.0 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2568
- หุ้นกู้ชุด DAD20NB มูลค่า 2.2 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2563
- หุ้นกู้ชุด DAD25NB มูลค่า 6.0 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2568
- หุ้นกู้ชุด DAD25NC มูลค่า 5.5 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน 2568
โดยอันดับเครดิตแสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามที่กำหนดและชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้
โครงการนี้เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลไทย โดยใช้กระแสเงินสดตลอดระยะเวลา 30 ปีที่จะได้รับจากค่าเช่าและค่าบริการต่างๆ จากอาคารศูนย์ราชการแห่งใหม่บนถนนแจ้งวัฒนะมาชำระคืนหุ้นกู้ โครงการนี้ได้ถูกจัดโครงสร้างให้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นผู้เช่าเพียงรายเดียวของโครงการ โดยดีเอดี เอสพีวี จะได้รับกระแสเงินสดรับค่าเช่าและค่าบริการต่างๆ ที่ผูกพันตามสัญญาจากกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดภายใต้กระทรวงการคลัง ทั้งนี้มีบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. ซึ่งถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง 100% เป็นผู้รับผิดชอบพัฒนาโครงการอาคารศูนย์ราชการ
การประกาศคงอันดับเครดิตพิจารณาถึงกระแสเงินสดรับที่ผูกพันตามสัญญาจากกรมธนารักษ์ และโครงสร้างของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์นี้ ในขณะที่การก่อสร้างอาคารศูนย์ราชการแห่งใหม่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ดีเอดี เอสพีวีได้รับชำระค่าเช่าและค่าบริการล่วงหน้า 1 ปีในเดือนกรกฎาคม 2551 ตามที่ระบุไว้ในสัญญาว่าการชำระค่าเช่าและค่าบริการจะไม่คำนึงถึงความเสร็จสมบูรณ์ในการก่อสร้างอาคารศูนย์ราชการ ทั้งนี้หลังจากได้รับชำระค่าเช่าและค่าบริการแล้ว ดีเอดี เอสพีวีได้ทำการกันสำรองกระแสเงินสดสำหรับภาษีหัก ณ ที่จ่าย ดอกเบี้ยหุ้นกู้ตามโครงการและค่าใช้จ่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องในโครงการครอบคลุมระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า รวมถึงการกันสำรองเพื่อรักษาสภาพคล่องและการกันสำรองเพื่อการสะสมชำระคืนเงินต้นตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในสัญญาป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน จากการที่การเบิกจ่ายงบประมาณตามระเบียบราชการของงบประมาณผูกพันข้ามปีไม่ตรงกับกำหนดระยะเวลาการชำระเงินภายใต้สัญญา ทำให้ ธพส. ต้องเข้ามาชำระค่าเช่าและค่าบริการล่วงหน้าในเดือนกรกฎาคม 2551 แทนกรมธนารักษ์บางส่วน อย่างไรก็ตามปัญหาความเหลื่อมล้ำของเงื่อนระยะเวลาดังกล่าวได้หมดไปหลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาการชำระเงินภายใต้สัญญาให้ตรงกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ในเดือนกันยายน 2551 ส่งผลให้ดีเอดี เอสพีวี จะได้รับชำระค่าเช่าและค่าบริการล่วงหน้า 1 ปีในเดือนตุลาคมของทุกปี
แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าโครงการจะสามารถรักษาระดับความสามารถในการชำระหนี้ (debt service coverage ratio) ได้ที่ไม่ต่ำกว่า 1 เท่าและสามารถรองรับอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ใหม่ (refinancing rate) ได้สูงกว่าระดับ 15% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยตามสมมติฐานของฟิทช์ ฟิทช์ได้มีการประกาศให้แนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตในระยะ 1 — 2 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างจากเครดิตพินิจ (rating watch) ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการมีความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นสืบเนื่องจากเหตุการณ์บางอย่าง
สำหรับรายงานฉบับนี้หาได้จาก www.fitchratings.com หรือ www.fitchratingsasia.com
ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, นภจักร ผาสุกวนิช, Vincent Milton + 662 655 4755