นายประเสริฐ จันทร์ไพแสง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกซันโอเค จำกัด กล่าวว่า จากการที่ บริษัทฯ ได้ทุ่มเทด้านการค้นคว้าและพัฒนาการเลี้ยงไก่มาอย่างต่อเนื่อง จนได้ไก่ตอน ที่มีรสชาติเฉพาะและมีลักษณะเหนียวนุ่มหนึบของเนื้อ มีหนังที่ค่อนข้างหนาและมีมันแทรก ผลการสำรวจของผู้บริโภคในด้านของเนื้อสัมผัส รสชาติ และความพึงพอใจ ไม่แตกต่างจากไก่ตอนแบบเดิมที่ตอนด้วยวิธีการฝั่งฮอร์โมนสังเคราะห์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
โดยการตอนไก่ของ ซันฟู้ด จะใช้ไก่เนื้อพันธ์ Ross 308 ใช้วิธีการตอนด้วยอาหารโดยจะ ใช้เป็นสูตรอาหารไก่ตอนที่เป็นสูตรเฉพาะของทางซันฟู้ด จากนั้นจะทิ้งเวลาในการเลี้ยงไก่ให้นานขึ้นเพื่อให้ไก่ได้สะสมไขมันเข้าไปแทรกในส่วนหนังและเนื้อ ทำให้เนื้อไก่นุ่มและหนังไก่จะหนามากขึ้นทำให้ได้ไก่ที่มีคุณภาพ มีขนาดใหญ่เนื้อเยอะกว่าไก่ทั่วไป 5-7% ได้มาตรฐานและปลอดภัย เนื่องจากเป็นการเพราะเลี้ยงในโรงเรือนปิดที่ควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ไก่ไม่เกิดภาวะเครียด ได้ความสม่ำเสมอในเรื่องของน้ำหนักตัว
นายประเสริฐ กล่าวถึงแนวคิดในการผลักดันผลิตภัณฑ์ “ไก่ตอน ซันฟู้ด” ว่า ปัจจุบัน ยังพบไก่ตอนที่ใช้ตามร้านข้าวมันไก่ทั่วไป ยังมีการตอนโดยใช้ยาหรือฮอร์โมน ดังนั้น เพื่อให้ผู้บริโภคข้าวมันไก่มีความปลอดภัยและรับประทานข้าวมันไก่ได้อย่างสบายใจ อีกทั้งลดความเสี่ยงจากอันตรายที่เกิดจากการรับประทานไก่ตอนด้วยยา จึงได้ผลิตไก่ตอนที่ตอนด้วยอาหารเพื่อมาจำหน่ายให้กับร้านแฟรนไชส์โกซันข้าวมันไก่ และร้านข้าวมันไก่ทั่วๆไป
ตลาดไก่ตอน ณ ปัจจุบัน ยังเป็นวงแคบ อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเท่านั้น สำหรับกำลังผลิตรวมของ “ไก่ตอนซันฟู้ด” ในตลาดมีอยู่ประมาณ 100,000 ตัวต่อเดือน เฉลี่ยเป็น 25,000 ตัวต่อสัปดาห์ คิดเป็นมูลค่า 10,000,000 บาทต่อเดือน ล่าสุดได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายโดยส่งไก่ตอนซันฟู้ด เข้าจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า แม็คโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมกับร้านข้าวมันไก่ที่มีป้ายเหลืองสัญลักษณ์ “โกซัน” โดยคาดว่าสิ้นปี 2552 จะสามารถสร้างการรับรู้และขยายช่องทางการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านบาท
อนึ่ง การเลี้ยงไก่ตอนในปัจจุบัน มี 2 แบบ คือการตอนแบบฝังยา และการตอนด้วยอาหาร การตอนแบบฝังยา เป็นการตอนโดยใช้เข็มฉีดเม็ดยาที่เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ (ฮอร์โมนเอสโตรเจน) เพื่อให้ยาฝังเข้าไปใต้ผิวหนังของไก่ และฮอร์โมนจะทำให้ได้เนื้อไก่ที่นุ่มขึ้นแต่ไม่ถึงกับเหนียว
ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะมีฤทธิ์อยู่ในตัวไก่นานประมาณ 45-50 วัน แต่เกษตรกรส่วนใหญ่จะรีบส่งขาย ในช่วง 15 วันหลังจากที่มีการฝังยา เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง การตอนแบบฝังยา กรมปศุสัตว์ได้ประกาศยกเลิก และห้ามนำ ฮอร์โมนสังเคราะห์ มาใช้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะมีสารตกค้างในเนื้อสัตว์ปีก อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทำให้เกิดสารตกค้างแก่ผู้บริโภค และเกิดการสะสม มีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของเต้านมและมะเร็งปากมดลูก และอันตรายอย่างที่สอง ฮอร์โมนที่ใช้ในการเร่งการเจริญเติบโต (ฮอร์โมนเอสโตรเจน) จะสลายไปบางส่วนจากการปรุงอาหารให้สุก โดยส่วนที่เหลือจะไปสะสมในร่างกาย และส่งผลให้ร่างกายเจริญเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อคลื่นสมองอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด
นายอาทิตย์ ประภาสะวัต (ปอนด์) 0-2704-7958 ต่อ 207 , 086-408-5548