นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น กพช. ยังมีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราเงินส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์ฯ ของน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล ดีเซล B2 และดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่ตามมติ กพช. เดิมจะต้องเพิ่มขึ้นอีก 0.20 บาทต่อลิตร โดยให้มีการชะลอออกไปจนกว่ากองทุนน้ำมันฯ ได้รับสะสมไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในภาวะฉุกเฉิน และเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันฯได้เพียงพอ
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราปรับเงินส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์ฯ นี้จะทำให้กองทุนอนุรักษ์ฯ มีรายรับเพิ่มขึ้นอีก 483 ล้านบาท/เดือน จาก 131 ล้านบาท/เดือน เป็น 614 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 7,368 ล้านบาทต่อปี โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการต่อไป
อัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้ จะจัดเก็บเฉพาะน้ำมันดีเซล B2 ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างราคาระหว่างดีเซล B5 และ B2 เพิ่มเป็น 1.50 บาท/ลิตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มมากขึ้น