การปรับกำหนดการยื่นคำขออนุญาตและแนวทางการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของคำขออนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย

พฤหัส ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๐๘ ๑๕:๔๕
ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลหรือสถาบันการเงินของรัฐบาลต่างประเทศ และนิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ นั้น

เพื่อให้การพิจารณาอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีความยืดหยุ่นสามารถปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เห็นชอบให้ปรับกำหนดการยื่นคำขออนุญาตและแนวทางในการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของคำขออนุญาตออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. กำหนดการยื่นคำขออนุญาต เห็นควรเปิดให้ยื่นคำขออนุญาต ปีละ 4 ครั้ง คือ ในเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม และพฤศจิกายนของทุกปี โดยผู้ขอจะต้องยื่นคำขอให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และจะต้องออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันได้รับอนุญาต โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

1.1 ผู้ได้รับอนุญาตที่ได้ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับอนุญาตไว้ก่อนวันปิดให้ยื่นคำขออนุญาตในรอบถัดไป จะสามารถยื่นคำขออนุญาตใหม่ในรอบถัดไปได้ทันที

1.2 ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตได้ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทไปแล้วบางส่วนแต่ยังไม่ครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตสามารถยื่นคำขออนุญาตใหม่ได้ในรอบท้ายสุดก่อนระยะเวลาในการอนุญาตรอบเดิมจะสิ้นสุดลง

1.3 ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตไม่ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทภายในกำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตจะมีสิทธิยื่นคำขออนุญาตในรอบถัดไปได้หลังจากระยะเวลาในการอนุญาตรอบเดิมของตนสิ้นสุดลง

1.4 สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตในแต่ละรอบหากมีความประสงค์ขออนุญาตในรอบถัดไปให้ยื่นเพียงหนังสือแสดงความจำนงและข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือข้อมูลเพิ่มเติมโดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตใหม่

2. การพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของคำขอ ในกรณีที่วงเงินรวมของคำขออนุญาตมากกว่ากรอบวงเงินที่จะจัดสรรให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทจะจัดลำดับความสำคัญของคำขอโดยพิจารณาจาก

- อันดับความน่าเชื่อถือ

- ลักษณะองค์กร และภาคเศรษฐกิจ

- การออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทได้จริงตามที่ได้รับอนุญาต

- ความสัมพันธ์กับประเทศไทย

- อื่นๆ เช่น เป็นประเทศในกลุ่ม ASEAN+3 การใช้เป็นเงินบาท และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

เนื่องจากการพิจารณาอนุญาตจะพิจารณาจากข้อมูลที่มี ณ ขณะที่ยื่นขออนุญาต ดังนั้นกระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการระงับการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ

จึงขอเชิญชวนนิติบุคคลต่างประเทศที่สนใจจะออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทยื่นคำขออนุญาตภายในกำหนดเวลาที่กล่าวข้างต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะโทร. 0-2265-8050 ต่อ 5810

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ