ปตท. นำลดราคาดีเซลและเบนซินลง 60-80 สตางค์ เป็นครั้งที่ 36

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกอ่อนตัวลงจากการที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปี 2552 ลง 740,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 85.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปี 2551 อยู่ที่ 85.89 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับจากข่าวรัฐมนตรีคลังสหรัฐ แถลงว่าจะใช้เงินเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทที่ขาดสภาพคล่องแทนการซื้อหนี้เสียของบริษัทเหล่านั้นทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้อัตราการขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์การว่างงานในอังกฤษจะเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านคนภายในสิ้นปี ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอังกฤษเดือน ต.ค. นี้ ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี อีกทั้งธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา ในปี 2552 ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% จากระดับ 6.5% นอกจากนี้จีนยังได้ชะลอการนำเข้าเนื่องจากความต้องการใช้เบาบางทำให้ปริมาณสำรองในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ล่าสุด(14 พ.ย. 51) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 47.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ 47.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 65.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงได้พิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 และกลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์ (91, 95 และ อี 20) ลงให้ผู้บริโภคอีก 80 สตางค์/ลิตร และลดราคาขายปลีกกลุ่มดีเซล (B2 และ B5) ลงอีก 60 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (วันเสาร์ที่ 15 พ.ย. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้