โกลว์ยังโชว์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งท่ามกลางปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ

ศุกร์ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๐๐๘ ๑๓:๔๘
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการใน 9 เดือนแรกของปี 2551 โดยมีรายได้รวม 25,681 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อม (“EBITDA”) จำนวน 6,017 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“Net Normalized Profit”: “NNP”) จำนวน 3,266 ล้านบาท

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์คนใหม่ กล่าวว่า “เพื่อเป็นการลดผลกระทบในทางลบของสภาวะเศรษฐกิจมหภาค เราได้ดำเนินการในมาตรการหลายอย่างเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว โดยผลของการดำเนินการดังกล่าวได้ช่วยให้กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (NNP) ของเราลดลงเพียงร้อยละ 1.36 เท่านั้น

นอกเหนือจากนั้น การประกาศขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ คาดว่าจะสามารถช่วยให้กำไรขั้นต้นของกลุ่มบริษัทโกลว์ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรที่ต่ำกว่าที่คาดหมายในปีนี้นั้น ปรับตัวดีขึ้น โดยผลกระทบต่อกำไรขั้นต้นใน 9 เดือนแรกของปีนี้จากปัจจัยข้างต้นเท่ากับประมาณ 400 ล้านบาท ประกอบกับแนวโน้มการอ่อนตัวลงของเงินบาทในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้นยังส่งผลให้อัตราค่าเงินบาทโดยเฉลี่ยของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วแข็งตัวขึ้นเพียงร้อยละ 5 ซึ่งทำให้ผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทลดลงเหลือเพียง 170 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทคาดหมายว่าจะสามารถแสดงผลประกอบการกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (NNP) ของปี 2552 นี้ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2551”

นายเอซ่า เฮสคาเน่น กล่าวต่อไปว่า “สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกันนั้น รายได้จากการขายยังคงเติบโต โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในขณะที่รายได้จากการขายไอน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 นอกจากนี้เรายังมีความคืบหน้าอย่างมากในการลงนามในสัญญาขายผลิตภัณฑ์จากกำลังการผลิตส่วนเพิ่มตามโครงการขยายกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์และ 382 เมกะวัตต์เทียบเท่า อีกด้วย

ในวันนี้ กลุ่มบริษัทโกลว์สามารถทำข้อผูกพันในการขายสำหรับโครงการขยายกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตในปี 2553 และสามารถทำข้อผูกพันในการขายสำหรับโครงการขยายกำลังการผลิต 382 เมกะวัตต์เทียบเท่า ได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตในปี 2554 ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มบริษัทโกลว์ยังได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้หุ้นให้ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 67.25 ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว (Houay Ho Hydro Power Plant) กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นในราวต้นปี 2552 โดยโครงการนี้จะเป็นก้าวแรกและฐานที่สำคัญในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในต่างประเทศเพื่อส่งไฟฟ้าขายในประเทศไทยต่อไป”

การจัดหาแหล่งเงินกู้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า IPP แห่งใหม่เสร็จสิ้น

ธุรกิจโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP)

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 หรือ 1 เดือนหลังจากได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้ากับกฟผ. (PPA) บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทโกลว์ และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เพื่อการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า IPP ขนาด 660 MW ได้ลงนามใน

สัญญาเงินกู้สำหรับโครงการ ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวเป็นเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐจำนวน 460 ล้านเหรียญสหรัฐและเงินกู้สกุลเงินบาท 9,960 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ 20.5 ปี เงินกู้ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 65 ของมูลค่าโครงการ สำหรับการลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นนั้น กลุ่มบริษัทโกลว์จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 9,000 ล้านบาท (สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 65) ซึ่งการเรียกชำระในส่วนเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นนั้นคาดว่าจะเกิดขั้นในราวปี 2554

โครงการเก็คโค่-วันมีกำหนดการจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2554 และจะขายไฟฟ้าให้แก่กฟผ.ภายใต้สัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี โดยโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการโรงไฟฟ้า IPP รายใหม่เพียงแห่งเดียวที่ได้รับการเซ็นสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า (PPA) ได้รับอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการเรียบร้อยแล้ว

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทโกลว์ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนในขณะนี้เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในประเทศ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A และวินัยทางการเงินของเราที่จะคงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระยะยาวที่ระดับ 1.0 เท่า นั้น โดยเราจะมีความสามารถในการจัดหาแหล่งเงินกู้เท่าที่จำเป็นต่อการขยายธุรกิจโดยยังไม่จำเป็นจะต้องลดอัตราการจ่ายเงินปันผลเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ด้วยราคาหุ้นของโกลว์ในปัจจุบันและระดับการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมานั้น ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ของโกลว์ยังสูงกว่าร้อยละ 8 แล้วด้วย”

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ได้สรุปว่า “กลุ่มบริษัทโกลว์ถือว่าได้รับความเชื่อถืออย่างดีมาโดยตลอดในการบรรลุเป้าหมายแผนธุรกิจที่ได้กำหนดไว้ ในด้านการขยายการลงทุนถือว่าโกลว์ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในการลงนามในสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า IPP และการจัดหาแหล่งเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว เรายังได้เริ่มการขยายกำลังการผลิตของธุรกิจผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ซึ่งได้รับการยืนยันซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำแล้วเป็นส่วนใหญ่ และโกลว์ยังได้เริ่มทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาวอีกด้วย ในส่วนของด้านสายการปฏิบัติการ เราได้บรรลุตามแผนงานที่สำคัญหลายประการเพื่อลดผลกระทบทางลบต่อผลประกอบการจากปัจจัยต่าง ๆ อีกด้วย ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป บริษัทคาดว่าเราจะมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นเนื่องมาจากโครงการขยายการลงทุนใหม่ของบริษัทได้เริ่มทยอยเปิดดำเนินการแล้วในช่วงปีนั้น เมื่อถึงปี 2554 กำลังการผลิตของเราจะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 กลุ่มบริษัทโกลว์จะมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั้งในแง่ขนาดของบริษัทและผลประกอบการโดยรวม”

เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน

บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 1,708 เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 967 ตันต่อชั่วโมง

กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม ให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง

GDF SUEZ Energy International เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นสายงานธุรกิจหนึ่งของกลุ่ม GDF SUEZ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDF SUEZ หรือ GDF SUEZ Energy International ได้ที่ เวบไซต์ของบริษัทwww.gdfsuezenergyint.com และ www.suezenergyint.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ ที่เวบไซต์ www.glow.co.th

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ

นาย ณัฐพรรษ ตันบุญเอก

บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)

โทร. 02-670-1500

Email : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก