ผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการปีนี้ บจ. โดยรวมคะแนนดีขึ้น บริษัท SET100 ทำคะแนนดีกว่าภาพรวม

จันทร์ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๐๐๘ ๐๗:๕๕
นายชาญชัย จารุวัสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ (2551) บริษัทจดทะเบียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยจากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 75 เปอร์เซ็นต์จาก 71 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2549 ซึ่งเมื่อพิจารณาเฉพาะบริษัทในกลุ่ม SET 100 ก็ยิ่งมีคะแนนดีขึ้น โดยในปีนี้มีคะแนนเฉลี่ยถึง 83 เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับ 78 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2549

“ผลสำรวจในปีนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance) ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสะท้อนถึงความสำเร็จที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย IOD และสมาคมบริษัทจดทะเบียนได้รณรงค์ให้บริษัทจดทะเบียนให้ความสนใจในเรื่องการกำกับดูแลกิจการได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่ม SET 100 ที่นอกจากคะแนนเฉลี่ยจะสูงกว่าบริษัททั้งหมดโดยรวมแล้ว บริษัทเกือบทั้งหมดในกลุ่มนี้ยังมีคะแนนรวมเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป” นายชาญชัยกล่าว

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2551 คณะอนุกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์การดำเนินการเกี่ยวกับ Corporate Governance ในประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ได้จัดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่ผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ MAI ประจำปี 2551 โดยนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจฯ เป็นผู้เปิดการสัมมนา การสำรวจในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ได้มีการสำรวจครั้งแรกในปี 2544 และผลสำรวจได้นำเสนอในรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนไทยมีคะแนนที่ดีขึ้นมาโดยตลอด คือ จากคะแนนเฉลี่ยเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2544 มาเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้

ในปี 2551 มีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการสำรวจจำนวน 448 บริษัท โดยมีการให้คะแนนตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการโครงการกำหนดขึ้นรวม 132 ข้อ ซึ่งอิงตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development — OECD) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 หมวด คือ 1) สิทธิของผู้ถือหุ้น 2) การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน 3) การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย 4) การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส 5) ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งผลสำรวจปรากฎว่า บริษัทจดทะเบียนได้คะแนนสูงสุดในหมวดการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส รองลงมาคือหมวดสิทธิของผู้ถือหุ้นที่ได้คะแนนเฉลี่ย 88 และ 86 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม นายชาญชัยจารุวัสตร์ กล่าวว่า “ในหมวดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ บริษัทจดทะเบียนยังได้คะแนนเฉลี่ยที่ยังต่ำอยู่คือระดับ 57 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องได้รับการพัฒนาและมุ่งเน้นการฝึกอบรมต่อไป”

เมื่อพิจารณาคะแนนในภาพรวม ในปีนี้มีบริษัทประมาณ 3 ใน 4 ของบริษัทที่ทำการสำรวจได้รับคะแนนในระดับที่สูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมี 22 บริษัท (ร้อยละ 5 ของบริษัทที่ทำการสำรวจ) ที่ได้คะแนนในระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โดยในกลุ่ม SET 100 มีบริษัทที่ได้คะแนนเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ 91 บริษัทจากบริษัทที่ทำการสำรวจ 96 บริษัทหรือคิดเป็นร้อยละ 95 ในขณะที่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กก็มีผลสำรวจอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเช่นกัน โดยมีบริษัทขนาดกลางและเล็กร้อยละ 76 และ 63 ที่ได้คะแนนเกินกว่าร้อยละ 70 เช่นเดียวกัน

“ผลสำรวจที่ดีอย่างต่อเนื่องนี้เท่ากับเป็นภาพสะท้อนถึงความสำเร็จของความพยายามของทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งนอกจากจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว ยังขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิได้จำกัดอยู่เฉพาะบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ แต่ยังขยายไปถึงบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก หรือแม้แต่บริษัทในกลุ่ม MAI ก็ตาม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะช่วยสร้างให้เกิดความเข้มแข็งของตลาดทุนไทยต่อไป” นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา กล่าว

ต่อเรื่องนี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “การที่มีผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการโดยพิจารณาจากข้อมูลที่เปิดเผยออกมาในลักษณะนี้ จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น นอกเหนือจากการพิจารณาข้อมูลทางการเงินและผลประกอบการของบริษัทแล้ว ผู้ลงทุนที่มุ่งหวังลงทุนระยะยาว ควรพิจารณาความน่าเชื่อถือในด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทประกอบด้วย ซึ่งปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้ขอความร่วมมือให้บริษัทหลักทรัพย์นำผลสำรวจที่บริษัทจดทะเบียนได้รับจากโครงการนี้แสดงไว้ในรายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลครบถ้วนรอบด้านประกอบการตัดสินใจลงทุนในบริษัทนั้น”

จากผลสำรวจที่ได้พบว่าบริษัทจดทะเบียนของไทยมีแนวปฎิบัติในหลายๆ ด้านที่เทียบเท่ามาตรฐานสากล อาทิเช่น การอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ ที่บริษัทถึงร้อยละ 96 เสนอค่าตอบแทนกรรมการให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติทุกปี และยังมีบริษัทถึงร้อยละ 91 ที่มีการใช้บัตรลงคะแนนในการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น และมีฝ่ายตรวจสอบภายในซึ่งรายงานตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ในขณะที่บริษัทร้อยละ 87 มีการแยกตำแหน่งระหว่างประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นต้น

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การที่บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการและพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น จะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และสามารถดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวได้มากขึ้น โดยเป็นที่น่าดีใจว่าบริษัทในกลุ่ม SET100 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ประมาณร้อยละ 78 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโดยรวม ได้รับคะแนนจากการสำรวจครั้งนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเกือบทั้งหมด”

นอกจากนั้น ศ.หิรัญ รดีศรี ประธานกรรมการโครงการกล่าวว่า “โครงการ CGR เป็นโครงการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยปัจจุบันมีสถาบันกรรมการในประเทศอื่นในแถบเอเซีย นำหลักเกณฑ์และวิธีการของโครงการนี้ไปใช้กับบริษัทจดทะเบียนในประเทศของตนแล้วถึง 4 ประเทศ”

Khun Wirawan Munnapinun

Senior CG Analyst

Thai Institute of Directors Association

Tel. 0 2264 0870 ext. 333

Fax. 0 2264 0872

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version