นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากภาวะราคายางพาราตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 - 45 บาทในขณะนี้ เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุเป็นการเร่งด่วน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบ ว่า สาเหตุที่ส่งผลให้ราคายาพาราตกต่ำ มาจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำในขณะนี้
โดยเฉพาะกรณีของ 3 บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ได้แก่ เจเนอรัลมอเตอร์ ฟอร์ด และไครสเลอร์ ที่ต้องใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการผลิตอุปกรณ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ประสบปัญหาจากพิษเศรษฐกิจ จนต้องประกาศขายหุ้นในต่างประเทศ บางส่วนปลดพนักงานและลดกำลังการผลิตลงขณะที่ตลาดยานยนต์ญี่ปุ่นลดกำลังการผลิตลง 30% ส่งผลให้การสั่งนำเข้ายางพาราเพื่อการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของโลกลดลง อีกทั้งการที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคายางตกต่ำไปด้วยเช่นกัน
“ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ ส่งผลกระทบโดยรวมต่อราคาพืชเศรษฐกิจต่างๆ รวมทั้งยางพาราของไทย ราคาลดต่ำลงตามปริมาณความต้องการใช้ที่ลดลงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่จากการประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ ถือว่ายังไม่เลวร้าย เพราะในช่วงนี้ยังไม่มีผลผลิตออกมามากนัก เนื่องจากในภาคใต้ยังมีฝนยังตกอยู่ยังไม่สามารถกรีดยางได้”นายธีระชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของปัญหาที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้สถาบันวิจัยยางสำรวจตัวเลขสต๊อก ตัวเลขการส่งออกของสมาชิกตลาดต่างประเทศ เพื่อวางมาตรการในการแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาวให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งนี้จะมีการประชุมกับบริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนิเซีย มาเลเซีย โดยเร่งด่วน เพื่อหารือในการกำหนดแนวทางแก้ไขและรับมือกับปัญหาต่อไป
นอกจากนี้จะต้องดำเนินการสำรวจพื้นที่ สำหรับการปลูกยางพาราทดแทน ว่า จะสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ และมีพื้นที่จำนวนเท่าไร เพื่อเร่งดำเนินมาตรการลดการกรีด ขณะที่กองทุนพัฒนายางจะดำเนินการกระตุ้นให้มีการใช้ในประเทศมากขึ้น โดยผลักดันให้กระทรวงคมนาคมนำไปใช้ในการก่อสร้างถนนด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
เจ้าหน้าที่ประสานงานประชาสัมพันธ์
ศักดิ์ชัย ชลอกุล โทร 081-909-9864
เมศร์จิรา ณัฎฐ์กรสุทธิ์ โทร 087- 773- 0318
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กองเกษตรสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โทรศัพท์ 0-2281-0859 โทรสาร 0-2282-2871 www.moac.go.th