สมาคมเครื่องหนังเปิดตัวแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยแบบองค์รวม

พฤหัส ๒๗ พฤศจิกายน ๒๐๐๘ ๑๔:๔๕
สมาคมเครื่องหนังไทยเผยโร้ดแม็ป พัฒนาศักยภาพอุตหสาหกรรมเครื่องหนังของเมืองไทยแบบองค์รวม เพื่อชิงความได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดโลก ชูความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ คือปัจจัยหลักของความสำเร็จ

นายธวัฒน์ จิว นายกสมาคมเครื่องหนังไทย กล่าวว่า สินค้าเครื่องหนังของเมืองไทยได้รับการยอมรับจากตลาดโลก ทั้งในด้านคุณภาพของวัตถุดิบ ความประณีตในการผลิต และรูปแบบดีไซน์ที่มีทั้งความเป็นสากลและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ

ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2551 สินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้ในการเดินทาง และรองเท้า สามารถทำรายได้จากการส่งออกรวมประมาณ 1,500.66 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 52,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.44 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 สำหรับเป้าหมายมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2551 อยู่ที่ประมาณ 1,826 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 63,910 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2550 5 เปอร์เซ็นต์ และคิดเป็นสัดส่วน 0.87 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง, เดนมาร์ก, จีน และเวียดนาม ซึ่งทั้ง 5 ประเทศนี้ รวมมีสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ 45.30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดอื่นที่มีอัตราการขยายตัวสูง ได้แก่ ปากีสถาน, อินโดนีเซีย และไต้หวัน

“แต่เนื่องจากสภาพความต้องการของตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งมีคู่แข่งในหลายประเทศเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ภายในประเทศเองก็มีสินค้าราคาถูกจากประเทศคู่แข่ง อย่าง จีน หลั่งไหลเข้ามา รวมไปถึงสินค้าลอกเลียนแบบ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับมาตรฐานของวงการอุตสาหกรรมโดยรวม ทางสมาคมเครื่องหนังไทยจึงได้จัดทำแผนกลยุทธ์การดำเนินการสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องหนัง หรือโร้ดแม็ป เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนังของเมืองไทยโดยรวม เพื่อรักษาและเพิ่มระดับความแข็งแกร่งด้านการแข่งขันของสินค้าเครื่องหนังไทย จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการกำหนดมาตรฐานให้กับตลาดผู้ใช้สินค้าเครื่องหนังในประเทศอีกด้วย”

นายธวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทางสมาคมเครื่องหนังไทยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.โนเอล โจนส์ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจข้ามชาติและการบริหาร เป็นผู้ดูแลการจัดทำโร้ดแม็ป โดยผลการศึกษาพบว่าปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องหนังของเมืองไทย เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งจากทั่วโลกนั้น คือการประสานความร่วมมือจากองค์กรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการเอกชน และระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง

ผลการศึกษาขั้นต้นระบุว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องหนังแบบองค์รวม ประกอบด้วย 6 ประเภทองค์กร ได้แก่

1) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์และโปรโมทแบรนด์สินค้า

2) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม การฝึกหัดและพัฒนาฝีมือแรงงาน

3) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการสื่อสารและการประสานการดำเนินงานระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

4) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องหนัง

5) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการตลาด และ

6) องค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านรัฐสัมพันธ์ และการสนับสนุนจากภาครัฐ

“ในขั้นต่อไป ทางสมาคมฯ จะเชิญองค์กรที่เกี่ยวข้องในทุกประเภทมาร่วมหารือ เพื่อกำหนดเป็นแผนการดำเนินการในช่วงต่อไป และเชื่อมั่นว่าหากทุกองค์กรให้ความสำคัญและประสานการทำงานร่วมกัน สินค้าเครื่องหนังจะสามารถเติบโตเพิ่มมากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย เช่นเดียวกับ การท่องเที่ยว” นายธวัฒน์ กล่าวสรุป

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ชัยวัฒน์ สิมะวัฒนา / พชรวดี จุโลทัย / ปาณิศา ใจรักษาธรรม

บริษัท พีอาร์พีเดีย จำกัด

โทร 0-2662-0550

มือถือ 08-9811-7937 / 08-5055-1473 / 08-9106-9967

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO