นายแพทย์สมเจตน์ มณีปาลวิรัตน์ แพทย์จากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที กล่าวในงานแถลงข่าวความสำเร็จว่า “ปัจจุบันเรามีตัวเลขผู้เป็นพาหะธาลัสซีเมียประมาณ 30% ของประชากรในประเทศไทย มีผู้ป่วยจากการที่พ่อและแม่เป็นธาลัสซีเมียอยู่ราว 500,000 ราย และทั้งปีจะมีผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียที่เกิดใหม่มากกว่า 10,000 ราย ซึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดที่สำคัญ 3 ชนิด กว่า 5,000 ราย อีกทั้งคู่สมรสใหม่ที่ไม่ได้รับการตรวจเลือดก่อนแต่งงาน จะตรวจพบว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียประมาณ 50,000 คู่ต่อปี ตัวเลขเหล่านี้มาจากงานวิจัยของ นพ.สุทัศน์ ฟู่เจริญ จากโครงการวิจัยธาลัสซีเมีย สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ปัจจุบันได้มีการประยุกต์ใช้เทคนิคการทำเด็กหลอดแก้วร่วมกับเทคนิคการตรวจเลือกตัวอ่อน จนทำให้สามารถตรวจคัดกรองตัวอ่อนเพื่อได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์นำกลับเข้าสู่ครรภ์มารดาจนประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นยังสามารถคัดกรองโรคทางพันธุกรรมอื่นๆ ได้อีกมากกว่า 100 โรค เช่น มะเร็งเต้านม ภาวะเลือดออกง่าย (ฮีโมฟิเลีย) และอื่นๆ ซึ่งเป็นก้าวใหม่ของเทคโนโลยีช่วยตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรมก่อนการตั้งครรภ์”
ศูนย์เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ประสบความสำเร็จจากการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว สามารถคัดกรองตัวอ่อนให้กับคู่สมรสพาหะธาลัสซีเมียมาแล้วหลายคู่ ครั้งนี้คู่สามี-ภรรยาหนึ่งในหลายคู่แห่งความสำเร็จของศูนย์ฯ เปิดใจว่าเขาและเธอคิดอย่างไร ทำไมเลือกที่จะไม่เสี่ยงตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ แต่เลือกเข้ามาปรึกษากับศูนย์เทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที
“ทราบจากการตรวจร่างกาย ก่อนแต่งงานว่ามีโอกาส 25 % ที่เด็กจะเป็นโรค แต่ก็ตั้งใจ จะมีลูกมากๆ รู้ว่าโรคนี้ทำให้เด็กป่วยตลอด ต้องให้เลือดบ่อย เพราะเลือดจาง สามีก็บอกว่าไม่อยากเสี่ยง เลยลองมาขอคำแนะนำที่ศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ทราบจากคุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ว่าการตรวจตัวอ่อนด้วยวิธีนี้ทำให้ได้บุตรไม่เป็นโรคจึงตัดสินใจเลือกตั้งครรภ์ด้วยวิธีนี้ โดยใช้เวลาเกือบปี จึงจะตั้งครรภ์ เนื่องจากตัวเองมีปัญหาสุขภาพส่วนตัว แต่ก็ไม่เคยท้อจนสำเร็จได้ลูกแฝดสอง ซึ่งก็ดีใจมาก ขณะนี้น้องอายุเดือนกว่าๆ แล้วแข็งแรงดี ตั้งใจว่าจะมีลูกคนต่อไป แต่จะรอให้สองคนนี้อายุได้ สักขวบนึงก่อนค่ะ “
“ดิฉันคิดว่าการมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการคัดกรองตัวอ่อนนี้ ทำให้ครอบครัวมีความสุขมาก เพราะถ้าให้ตั้งครรภ์โดยที่ทราบว่ามีความเสี่ยงต่อการที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย ต้องรักษา ต้องเจ็บปวด เราคงทนไม่ได้ แต่เมื่อเรามีทางป้องกัน เราเลือกที่จะไม่เสี่ยงได้ ทำไมเราถึงต้องเสี่ยง” คุณปิยะวดี ควรประดิษฐ์กล่าว
ปัจจุบันศูนย์ซูพีเรีย เอ อาร์ ที เป็นศูนย์เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียอาคเนย์ ด้วยความร่วมมือของกลุ่มแพทย์ไทยผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากและศูนย์ซิดนีย์ ไอวีเอฟ (Sydney IVF) ผู้ซึ่งมีผลงานและชื่อเสียงในการรักษาผู้มีบุตรยากมากที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย และมีประสบการณ์ในการตรวจวินิจฉัยคุณภาพตัวอ่อนมากที่สุดแห่งหนึ่งในระดับสากล
“เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม เพราะแนวโน้มของการเกิดโรคทางพันธุกรรมนั้นสูงขึ้นในทุกๆปี จึงต้องการให้ศูนย์เป็นความหวังใหม่ของคู่สมรสที่มีปัญหาทางโรคทางพันธุกรรม และต้องการแสดงให้เห็นว่าทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยนั้น มีความสามารถไม่แพ้ต่างประเทศ ในปัจจุบันมีผู้เข้ารับการปรึกษาเรื่องภาวะการมีบุตรยากและการตรวจคัดกรองตัวอ่อนกับทางศูนย์เป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ทางศูนย์ยังได้รับความสนใจจากคู่สมรสต่างๆทั่วโลกเป็นอย่างดี ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนั้นศูนย์ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของห้องแลบ และความแม่นยำของเทคนิคการให้บริการเพื่อเป็นผู้นำในด้านการให้บริการด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์และการวินิจฉัยความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนการฝังตัวที่ทันสมัยได้มาตรฐาน และก้าวต่อไปเพื่อเป็นผู้นำในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนเพื่อเป็นศูนย์เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก” คุณศรายุธ อัสสมกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ จากศูนย์ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
อนินทร์ กุชราล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Superior A.R.T., Tel: 02 255 4848
Website: www.thaisuperiorart.com Email: [email protected]
สุรพงศ์ กีรติบุตร Tel: 081 611 7654 Fax: 02 542 2710
Email: [email protected]