SPPT คาดปีนี้ยอดขายขยายตัว 22-28% ยอมรับผลงาน Q4 กระทบจากศก.ชะลอ

พุธ ๐๓ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๑๔:๑๗
"ประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์" คาดปีนี้ยอดขายของ SPPT ยังมีอัตราการเติบโตประมาณ 28-28% จากปีก่อน แม้ว่าในไตรมาส 4/51 อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งทำให้ความต้องการสินค้าลดลง ส่วนไตรมาส 3/51 มีกำไรสุทธิ 28.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาสก่อนหน้า ระบุเป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจ NON HARD DISK DRIVE มีอัตราการเติบโต 149% อีกทั้งสามารถลดค่าใช้จ่ายทางด้านการขายและการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ

นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยถึงผลประกอบการในปีนี้คาดว่าในส่วนของยอดขายจะมีอัตราการเติบโตจากปีก่อน 22-28% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 860-900 ล้านบาท โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/51 ยอมรับว่าคงจะชะลอตัวเนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าลดลงและลูกค้าพยายามลดสินค้าคงคลังให้น้อยที่สุด

"เกี่ยวกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของ SPPT อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ประมาท พยายามควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจออกไปเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยกลุ่ม NON HARD DISK DRIVE ถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นกลุ่มที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง และในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาของ SPPT ธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตมากถึง 149%"

เขากล่าวต่อถึงผลประกอบการในไตรมาส 3/51 ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีรายได้ 254.5 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน 177.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% และมี กำไรสุทธิ 28.1 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 19.1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47% ถ้าเทียบกับไตรมาสที่แล้ว( Q2/2551) ที่มีรายได้ 183.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 38.5% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 293% สำหรับรายได้ งวด 9 เดือน มีรายได้ 661 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 63.2 ล้านบาท เทียบกับปี 2550 ที่มีรายได้ 495 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 53.1 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 33.4% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 19%

สาเหตุที่บริษัท มียอดขายเพิ่มขึ้น และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากนโยบายของบริษัทที่มุ่งขยายผลิตภัณฑ์ไปยังธุรกิจ NON HARD DISK DRIVE และการลดค่าใช้จ่ายทางด้านการขายและการบริหาร โดยในงวด 9 เดือน ธุรกิจ NON HARD DISK DRIVE มีอัตราการเติบโต 149% และคิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 14% และเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 16% ของปี 2552 ทั้งปี

รายละเอียดเพิ่มเติม : บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT)

บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT) กลุ่มบริษัทประกอบด้วยบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เมดิคอล พาร์ท จำกัด (“SPMP”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Grade) และบริษัท ซิงเกิ้ลพอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (“SPEE”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนโดยการจำหน่าย ประกอบและติดตั้งเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ และจำหน่ายสารเร่งปฏิกริยาในการแปรรูปเศษพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ

ลักษณะผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

1. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive)

1.1 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Pivot ซึ่งเป็นตัวยึดแขนอ่าน

1.2 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Spindle Motor ซึ่งใช้ในการขับเคลื่อนแผ่นจานเก็บข้อมูล

2. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Non Hard Disk Drive)

2.1 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คโทรนิค และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Consumer Electronic &Entertainment) เช่น ชิ้นส่วนสำหรับกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดิโอ เอมพี 3 เครื่องเล่นเกมส์

2.2 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์

3. ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPMP โดยได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์วาล์วพลาสติกที่ประเทศญี่ปุ่นสำหรับอุปกรณ์การไหลเวียนของเหลวซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถให้ยาแก่ผู้ป่วยที่มีการต่อสายยางจากร่างกายโดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา

4. เครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPEE ทั้งนี้ SPEE จะนำเข้าเครื่องจักรแปรรูปขยะเป็นน้ำมันดิบจากต่างประเทศมาขายและติดตั้งให้กับลูกค้า และมีการบริการต่อเนื่องในการขายเครื่องจักรดังกล่าว คือ การขายตัวเร่งปฏิกิริยาในการสลายพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ (Catalyst), การให้บริการในการดูแลรักษาเครื่องจักร (Maintenance) และการบริการขนส่งน้ำมันดิบที่ได้จากขยะไปยังโรงกลั่นน้ำมัน (Logistic)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396 , 085-133-0184

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ