ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารกสิกรไทยที่ ‘AA-(tha)’

อังคาร ๐๙ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๑๓:๔๙
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ระดับ ‘AA-(tha)’ (AA ลบ (tha)) แก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ของธนาคารกสิกรไทย (KBANK — ‘BBB+’/‘F2’/Outlook Negative) จำนวนรวมไม่เกิน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีอายุ 10 ปี ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตในประเทศของธนาคารอยู่ที่มีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตของ KBANK สะท้อนการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลกำไรจากการดำเนินงาน คุณภาพของสินทรัพย์และฐานะเงินกองทุน รวมทั้งเครือข่ายการดำเนินงานและบริการภายในประเทศที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าบุคคลของธนาคาร อย่างไรก็ตาม คาดว่าการผลการดำเนินงานในปีหน้าของ KBANK จะปรับตัวลดลงจากการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในปี 2552 แต่ทั้งนี้เชื่อว่าการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร จะช่วยรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้

ผลการดำเนินงานของ KBANK ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2551 ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารมีกำไรสุทธิ 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2551 สินเชื่อของธนาคารยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 14% จากยอดสินเชื่อต้นปีนี้ KBANK ยังคงมีอัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) สูงที่สุดระหว่างธนาคารขนาดใหญ่ โดยธนาคารมีอัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2551 ที่ 4% อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงถึง 5.7 พันล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นถึง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานในปี 2552 ของ KBANK คาดว่าจะปรับตัวลดลง จากการขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าจะลดลงและการตั้งสำรองที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของ GDP ประเทศไทยจะลดลงมาอยู่ที่ 0.9% ในปี 2552

KBANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่ำที่สุดในภาคธนาคารพาณิชย์ไทย โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ธนาคารมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 37.5 พันล้านบาท หรือ 4.3% ของสินเชื่อรวม ธนาคารมีระดับการกันสำรองหนี้สูญอยู่ที่ 28.7 พันล้านบาท หรือเท่ากับ 77% ของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่รายอื่น

เงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมของ KBANK อยู่ที่ระดับ 10.8% และ 14.4% ตามลำดับ ณ สิ้น กันยายน 2551อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามมาตรฐาน Basel II ในสิ้นปีนี้ อาจส่งผลให้เงินกองทุนของธนาคารลดลงประมาณ 1% เนื่องจากการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำหรับความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ แต่ทั้งนี้คาดว่าฐานะเงินกองทุนของธนาคารจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อไป

ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งก่อตั้งในปี 2488 โดยตระกูลล่ำซำ เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13% บริษัทลูกที่สำคัญของธนาคารประกอบธุรกิจบริหารกองทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเช่าซื้อ

ติดต่อ

พชร ศรายุทธ, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4761/4759

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย