เมื่อ ‘อจีรัง’ แปรเปลี่ยนเป็น ‘โอกาส’

อังคาร ๐๙ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๑๗:๑๗
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามนุษย์เรามักยึดติดกับตัวตน “ปกติ” ของสรรพสิ่งต่างๆบนโลก และมนุษย์เองก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความรู้สึกยึดติดเหล่านั้นเมื่อเกิดสิ่งใดที่ “ผิดปกติ” เหตุเพราะสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกหรือแม้กระทั่งในจักรวาลนี้ก็ตาม ไม่สามารถที่จะหลีกหนีจากความเสื่อมสลายหรือต่อต้านการดับสูญของตัวตนโดยการฝ่าฝืนกระแสแห่งกาลเวลาได้

เมื่อคำสอนทางศาสนาสอนให้มนุษย์ “อย่ายึดติดในตัวตน” เพราะทุกสิ่งล้วนเป็น “อจีรัง” อันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ แต่ในขณะเดียวกัน นักคิด นักธุรกิจ รวมทั้งกูรูทางวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ กลับกล้าที่จะท้าทายสัจธรรมของโลก โดยการเปลี่ยนมุมมองของความ “อจีรัง” จากมุมมองแห่งความเสื่อมสลายให้กลายเป็นมุมมองแห่ง “โอกาสทางธุรกิจ” ซึ่งจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญกับวิกฤติต่างๆให้ดีขึ้น

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ของสังคมไทย จึงเสนอวิธีแก้ปัญหานี้ โดยจัดนิทรรศการ “อจีรัง คือ โอกาส” หรือ “Perishable Beauty” นิทรรศการที่จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ให้ออกมาโลดแล่น โดยนำความ “อจีรัง” มาตั้งเป็น “โจทย์” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ค้นหาคำตอบจากแนวทางการคิดของตนเอง ส่วน “คำตอบสุดท้าย” ของแต่ละคนนั้น คงสุดแล้วแต่ว่าใครจะสามารถนำ “โจทย์” ที่ได้รับไป “ตีให้แตก” และต่อยอดเป็น “โอกาสทางธุรกิจ” ได้มากน้อยกว่ากัน

...แล้วคุณพร้อมจะค้นหา “โอกาส” จากความ “อจีรัง” หรือยัง?

เอกภพอันยิ่งใหญ่ยังพ่ายแพ้ความ ‘อจีรัง’ นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่มีอายุขัยเพียงพริบตาจักรวาล? 17 พันล้านปีที่แล้ว เมื่อ “หลุมดำ” (Black Hole) เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง อันถือเป็นจุดสิ้นสุดของเอกภพในอดีต แต่การแตกดับนั้นก็ก่อให้เกิดเป็น “ระบบสุริยะจักรวาล” ที่มนุษย์เราอาศัยอยู่ในกาลปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจหากจะกล่าวว่ามนุษย์คือ “ทายาทแห่งการดับสูญ” นั่นเอง

อาหารมื้อพิเศษ...สัญลักษณ์แห่งการแสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวจากความเสื่อมสลาย

ใครจะไปคาดคิดว่าอาหารแต่ละมื้อที่มนุษย์รับประทานเพื่อสุนทรียรสในแต่ละวัน จะเป็นหนึ่งในสัญญะสำคัญที่แฝงนัยแห่งสัจธรรมว่า มนุษย์เองก็ต้องการหนีความจริงที่ว่าทุกชีวิตล้วนมีจุดจบไม่ต่างจากอาหารที่ตนเองกำลังนำใส่ปากรับประทานเพื่อลิ้มรสชาติของความอร่อยเพียงไม่กี่คำเคี้ยวเท่านั้น

จาก ‘ความกลัว’ สู่วิทยาการแห่ง ‘การหนีความตาย’

เมื่อความกลัวตายคอยไล่ต้อนมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย บังคับให้มนุษย์ตัดสินใจลุกขึ้นสู้เพื่อหาวิธีหลีกหนีให้พ้น...จนถึงปัจจุบัน วิทยาการหนีความตายจึงสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แต่ละประเทศได้เป็นจำนวนสูงลิบ เห็นได้ชัดตั้งแต่พิธีกรรมหมักดองมัมมี่ การโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้ฟื้นคืนชีพ หรือกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่ร่วงโรย เพื่อใช้ดับกลิ่นกายของร่างอันไร้วิญญาณ ไปจนถึงการแปรเปลี่ยนอัฐิของคนรักให้กลายเป็น “แหวนเพชร” แห่งความทรงจำ ที่ได้ทั้งมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางจิตใจที่ประเมินค่ามิได้

ศาสตร์แห่งความงามกับความสุขของมนุษย์ที่หากินได้ตลอดปีตลอดชาติ

ความเชื่อที่ว่า “มนุษย์อยากให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ” ได้กลายเป็นช่องทางทางการตลาดของที่เปิดให้โอกาสทางธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามเกิดขึ้นมา คนทั่วโลกจำนวนไม่น้อยยอมทุ่มทุนสุดตัว เพื่อเปลี่ยนแปลงหน้าตาและรูปร่างของตัวเองให้เป็นไปตามบรรทัดฐานความสวยที่สังคมกำหนดไว้ จนแทบจะหาความงามของตัวตนอันแท้จริงไม่เจอ ผลกำไรมหาศาลจากธุรกิจเหล่านี้จึงตกอยู่กับผู้ที่มองเห็น “โอกาส” และนำไปต่อยอดเป็น “ธุรกิจ” ก่อนใคร

ใครคือฆาตรกรแห่งความงามกันแน่?

กาลิเลโอ เป็นยอกนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ที่สร้างกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาเพื่อเปิดตามนุษย์โลกให้มองเห็นความสวยงามของดวงจันทร์ แต่เมื่อนีล อาร์มสตรอง ปักธงแห่งชัยชนะบนพื้นผิวขรุขระของดวงจันทร์ มนุษย์จึงพบกับความจริงที่ทำให้ตาสว่างขึ้นมาว่า “แท้จริง ดวงจันทร์ไม่ได้นวลผ่อง แต่คือพื้นผิวที่ถูกอุกกาบาตบดขยี้จนไม่เหลือสภาพ” ซึ่งไม่ต่างจากผิวหน้าของมนุษย์แม้แต่น้อย!

เมื่อ ‘ฤดูกาล’ สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ

จะมีรัฐบาลของประเทศไหนที่มองการณ์ไกลล้ำหน้าไปกว่ารัฐบาลญี่ปุ่น ที่กำหนดช่วงฤดูกาล 1 สัปดาห์ที่ดอกซากุระทั้งประเทศเบ่งบานก่อนจะร่วงโรยให้เป็นวาระแห่งชาติ จนกลายเป็นฤดูกาลที่สามารถเรียกเงินจำนวนมหาศาลจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก...แต่สุดท้ายเจ้าดอกซากุระก็หนี “ความโรยรา” อันเป็น “อจีรัง” ไม่พ้นอยู่ดี

ริอ่านจะฟื้นเมืองตาย ก็ต้องพร้อมจะทุ่มทุนสู้

โปสการ์ดสวยๆแต่ละใบจากอัมพวา ลี่เจียง หรือ เวนิส ที่จุไปด้วยความทรงจำและความประทับใจของสถานที่แห่งนั้น ล้วนต้องใช้เงินลงทุนเพื่อรักษาความสวยงาม และจัดระเบียบสิ่งแวดล้อมเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนอยู่เสมอ ผลตอบแทนที่ได้รับจึงมิใช่เพียงความประทับใจของนักท่องเที่ยว หรือความยินดีของเจ้าบ้านเท่านั้น

หากแต่หมายถึงรายได้จำนวนมากที่ไหลเข้าประเทศอย่างไม่ขาดสาย ตราบนานเท่าที่ความงดงามของธรรมชาตินั้นยังคงอยู่ มิเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

ส.ค.ส = ส่งความสด...กระบวนการจัดการความเสื่อมและศูนย์กลางการค้าส่งความ ‘อจีรัง’

ด้วยระบบการผลิตและการขนส่งที่ทันสมัย ทั้งยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่าง ชาญฉลาดและทันท่วงที จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมเนเธอร์แลนด์จึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางและผู้นำด้านการส่งออกดอกไม้ระดับโลก...ในทางกลับกัน เมื่อประเทศไทยสามารถส่งออกดอกกล้วยไม้เป็นอันดับหนึ่งของโลก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเรานำเทคนิควิธีการจัดการกับความเสื่อมสลายของดอกไม้จากประเทศต้นแบบเช่นเนเธอร์แลนด์มาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และรู้จักการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับประเทศ นอกเสียจากประเทศไทยจะขึ้นชื่อว่าเป็น “ศูนย์กลางการส่งออกไม้ดอกไม้ประดับเมืองร้อน” อย่างเต็มศักยภาพ

มะนาวหยดสุดท้าย...จะทิ้งหรือจะรีบคว้ามาสร้างเป็น “โอกาสทางธุรกิจ”

หากเปรียบ “มะนาวหยดสุดท้าย” เป็นดั่งตัวแทนของโอกาสทางธุรกิจ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่คนไทยต้องนำ “โอกาส” เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดและโดยเร็วที่สุด...ก่อนที่โอกาสเหล่านั้นจะกลายเป็นมะนาวไร้ค่าที่ไม่เหลือแม้แต่น้ำหยดสุดท้าย

นิทรรศการ “อจีรัง คือ โอกาส” (Perishable Beauty) นิทรรศการแรกที่จะตาย...ต่อหน้าคุณ เปิดให้ชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 22 กุมภาพันธ์ 2552 ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เวลา 10.30 — 21.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-664-8448 หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.tcdc.or.th

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

Wanwisa Limsumangkalakul (Cat)

PR Executive - JWT Public Relations

T: 02-240-8213

M: 089-781-8797

F : 02-259-9246

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ