see English press release at http://www.sun.com/aboutsun/pr/2008-12/sunflash.20081208.1.xml
ซันไมโครซิสเต็มส์ เผยโฉมระบบดาต้าเบสโอเพ่นซอร์สเวอร์ชั่นใหม่ “MySQL 5.1” ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเหนือชั้น ด้วยระบบบริหารจัดการเพื่อรองรับระบบงานฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ชี้เพียง 10 วันหลังเปิดตัว ยอดดาวน์โหลดพุ่งสูงกว่า 250,000 ครั้ง
บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ หนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส ได้พัฒนาระบบดาต้าเบสเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด MySQL 5.1 เพื่อรองรับการใช้งานในระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยซันได้ออกแบบระบบให้มีการบริหารจัดการที่ง่ายและสะดวกขึ้น เพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถนำระบบดังกล่าวไปปรับใช้และพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และจากยอดดาวน์โหลดที่เพิ่มสูงขึ้น ซันเชื่อว่า MySQL 5.1 จะเป็นระบบซอฟต์แวร์บนเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยมสูงสุดในระดับองค์กร ทั้งนี้องค์กรและนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดระบบดาต้าเบสเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ที่ http://dev.mysql.com/downloads/
นายมาร์ติน มิคคอส รองประธานอาวุโสกลุ่มระบบดาต้าเบส บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ กล่าวว่า การผสมผสานความสามารถของระบบที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ระบบการจัดการที่ง่ายขึ้น และความสะดวกในการปรับระบบให้รองรับความต้องการในการใช้งานขนาดใหญ่ (Scalability) ซึ่งรวมอยู่ใน MySQL 5.1 ได้เปิดทางเลือกใหม่ให้องค์กรธุรกิจสามารถพัฒนาระบบดาต้าเบสที่มีเสถียรภาพสูงได้ในค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง ซึ่งนับว่ามีความเหมาะสมและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าโดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว เช่นนี้
ทั้งนี้ ซันได้พัฒนา MySQL 5.1 ให้สามารถทำงานร่วมกับระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์หลากหลายแพลตฟอร์ม อาทิ ระบบ Red Hat Enterprise Linux ระบบ SuSE Enterprise Linux Server ระบบไมโครซอฟต์วินโดวส์ ระบบปฏิบัติการ Solaris 10 ระบบปฏิบัติการ Macintosh OS X ระบบ FreeBSD, HP-UX, IBM AIX และ IBM i5/OS เป็นต้น
ระบบดาต้าเบสเวอร์ชั่นใหม่ ประกอบไปด้วย 3 รูปแบบไลเซนส์ ที่รองรับความต้องการในการใช้งานของกลุ่มผู้ใช้ที่มีความต้องการแตกต่างกัน โดย MySQL Community Server ซึ่งเป็นไลเซนส์ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ ภายใต้สัญญาอนุญาตให้สาธารณชนใช้ซอฟต์แวร์ (General Public License:GPL) จะเน้นไปยังกลุ่มผู้พัฒนาที่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมระบบซอฟต์แวร์ได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ MySQL Enterprise Server ซึ่งเป็นไลเซนส์ที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้ใช้ไอทีประเภทองค์กรธุรกิจ โดยซันได้รวมระบบดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งในบริการของ MySQL Enterprise Subscription ดังนั้นผู้ใช้จะได้รับการอัพเดทระบบซอฟต์แวร์ใหม่เป็นประจำทุกเดือน ได้รับโปรแกรมเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบซอฟต์แวร์ (Service Packs) ในทุกไตรมาส รวมถึงความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคอีกด้วย
และเพื่อให้บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ หรือ ISVs สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบซอฟต์แวร์ของตัวเอง ซันได้พัฒนา MySQL Embedded Server จำหน่ายในรูปแบบไลเซ่นส์ให้กับกลุ่ม ISVs เพื่อนำระบบดังกล่าวไปผสานรวมกับโซลูชั่นซอฟต์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้ครบวงจร
นอกจากนี้ ซันได้เสริมประสิทธิภาพและความสามารถของระบบดาต้าเบส MySQL 5.1 ให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดทำตารางข้อมูล (Table) และดัชนีข้อมูล (Index) ที่ MySQL 5.1สามารถทำได้ถึง 5 รูปแบบหลักและสามารถตอบสนองต่อการค้นหาได้รวดเร็ว ขณะเดียวกันสามารถทำสำเนาข้อมูล หรือ Replication ได้ถึง 2 รูปแบบ ทั้งในรูปของ Row-Based Replication และ Hybrid Replication ซึ่งจะช่วยให้ขั้นตอนการทำสำเนาข้อมูลมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ระบบดาต้าเบสเวอร์ชั่นใหม่ ยังได้มาพร้อมกับเครื่องมือที่เรียกว่า Event Scheduler ที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาและผู้บริหารระบบ สามารถจัดการงานต่างๆ เพื่อนำไปประมวลผลยังดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งยังมี MySQL Query Analyzer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ บ่งชี้ และแก้ไข SQL code ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น ทั้งนี้ MySQL Query Analyzer จะเป็นส่วนหนึ่งของบริการที่ซันนำเสนอให้กับกลุ่มผู้ใช้บริการ MySQL Enterprise subscription ในระดับพรีเมี่ยม
เป็นที่คาดว่า แนวโน้มการใช้งานระบบดาต้าเบสบนเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สจะมีการขยายตัวมากขึ้น และจากรายงานการวิเคราะห์สภาพการเติบโตของระบบการจัดการฐานข้อมูลบนเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สของ Gartner พบว่า การขยายตัวของระบบดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2551 ขณะที่การเติบโตทางด้านรายได้ในปี 2550 เพิ่มถึง 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับตลาดระบบดาต้าเบสโดยรวมที่มีการเติบโตทางด้านรายได้เพียง 13 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ Gartner ยังคาดการณ์อีกว่า ตลาดระบบดาต้าเบสโอเพ่นซอร์สจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยมูลค่าของตลาดจะพุ่งสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2556
นายโดนัลด์ เฟอินเบอร์ก รองประธาน และนักวิเคราะห์แห่ง Gartner กล่าวว่า แนวโน้มการใช้งานระบบดาต้าเบสโอเพ่นซอร์สจะเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากเป็นระบบที่มีความคุ้มค่าในการลงทุน ในขณะที่การรับรู้ในเชิงความเสี่ยงต่อการใช้งานของระบบเริ่มลดลง และแม้ว่าขณะนี้การใช้งานของระบบดาต้าเบสโอเพ่นซอร์สในองค์กรธุรกิจมุ่งเน้นเพื่อรองรับงานทั่วไปเป็นหลัก แต่หากแต่ละองค์กรมีการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีให้มีความรู้ความสามารถทางเทคนิคมากขึ้น การใช้ระบบดาต้าเบสโอเพ่นซอร์สจะขยายไปเพื่อรองรับงานที่มีความสำคัญยิ่ง (Mission Critical Applications) มากขึ้นเช่นกัน
รายงานการวิเคราะห์สภาพการเติบโตของระบบการจัดการฐานข้อมูลบนเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สฉบับสมบูรณ์ สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://mediaproducts.gartner.com/reprints/sunmicrosystems/volume1/article2/article2.html