นายเกษม สถิรเสถียร CEO บริษัท ทีเอเอ ฟิวเจอร์ จำกัด หรือ TAA โบรคเกอร์แถวหน้า ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยถึงแนวโน้มของตลาด AFET ในปี 2552 ว่า คาดว่ามีแนวโน้ม จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเนื่องจากนักลงทุนกลุ่มเดิมรู้จักและเข้าใจประโยชน์ของการลงทุนใน AFET มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อค้า,ผู้ส่งออก และผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเกษตร ได้เห็นข้อดีของตลาด AFET มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบเข้ามากระทบภาวะเศรษฐกิจ ทั้งจากภายในประเทศ และจากต่างประเทศซึ่งภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ คอมมอนิตี้ ราคาปรับลดลงทั่วโลก ราคายางพาราในบ้านเราได้รับผลกระทบตามด้วยเช่นกัน โดย ราคายางในตลาด ลดลงเกินกว่าครึ่ง จาก 90 บาท เหลือต่ำสุดที่ประมาณ 38 บาท หากกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยางใช้กลไกตลาด AFET มาขายล่วงหน้าในตลาด ประกันความเสี่ยงในเรื่องของการแกว่งตัวขึ้นลงของราคา จะทำให้ได้รับประโยชน์โดยตรง โดยได้กำไรจากตลาดล่วงหน้า มาชดเชยกับผลขาดทุนในตลาดจริง
ปัจจุบัน นักลงทุนรายย่อย ก็รู้จัก ตลาดฟิวเจอร์ มากขึ้นทั้งจาก TFEX ที่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น Single Stock Futures หรือ Gold Futures ที่จะเข้ามาซื้อขายในเร็วๆ นี้ ทำให้ นักลงทุน เข้าใจ คอนเซ็ป หรือวิธี การลงทุนฟิวเจอร์มากขึ้น ตลาด AFET หรือ ฟิวเจอร์สินค้าเกษตร ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งของนักลงทุนกลุ่มนี้
“เรามีกลุ่มลูกค้าที่ลงทุนใน TFEX มาก่อน แล้วมาเปิดบัญชีลงทุน AFET ควบคู่กันไป หลายคนบอกว่า AFET ลงทุนไม่ยากอย่างที่คิด” นายเกษม กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรุกทำตลาดทั้งกลุ่มนักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร (Hedger) ให้มากขึ้น รองรับการเติบโตของตลาด และจากจุดแข็งของบริษัทที่มีกลุ่มลูกค้าหลากหลายทั้งพ่อค้าและลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อย โดยเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งนี้ได้เน้นการบริการนักลงทุนที่หลายหลาย รวดเร็วฉับไว ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เข้าถึงความต้องการนักลงทุนให้มากที่สุด รวมถึงเน้นทีมวิเคราะห์ที่เปิดสาย Hot line ให้คำแนะนำการลงทุนใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาซื้อขาย ที่หมายเลข 02-2459511 ...CEO ทีเอเอ ฟิวเจอร์ส กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ผู้ส่ง : ปาระวี อินทองปาน
เบอร์โทรศัพท์ : 02-2459511