“ก็ตื่นเต้นและดีใจมากนะคะที่มีผู้สนใจขอไปทำละครเวทีบ้าง แอนิเมชั่นบ้าง ภาพยนตร์บ้างอะไรอย่างนี้ตลอดเวลา ก็รู้สึกแปลกใจด้วย เพราะมันเป็นเรื่องเรียบ ๆ ง่าย ๆ แล้วก็จะต้องคุยกับคนที่มาทาบทามว่าเขาตั้งใจจริง ๆ นะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นเรื่องโลดโผนตื่นเต้นเร้าใจอะไรอย่างนี้ ก็คุยนานเหมือนกัน จนกระทั่งได้มาคุยกันกับ ‘กลุ่มภาพยนตร์ชูใจ’ ก็รู้สึกว่าน้อง ๆ เขาเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นวัยที่ดูก้าวหน้า แล้วก็ไม่มีอะไรปิดกั้น เราเองก็ไม่เคยรู้ว่างานวรรณกรรมที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์มันจะมีความยากง่ายที่ตรงไหน แต่พอคุยกับทีมงานแล้วทุกคนก็กระตือรือร้น ตั้งใจกันมาก ๆ ก็เป็นข่าวดีสำหรับคนที่เป็นนักเขียนแล้วงานเขียนได้ทำเป็นภาพยนตร์ รู้สึกว่ามันเป็นอีกขั้นหนึ่งของการทำงาน และกลุ่มภาพยนตร์ชูใจก็ดูจะว่าง่ายดี (หัวเราะ) เห็นเราเป็นพี่สาว ให้เกียรติแล้วก็อยากให้เราเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานด้วย มันน่ายินดีตรงนี้ และพอวันที่ไปดูการทำงานจริง ๆ แล้วก็เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานทุกคนที่ตั้งใจทำงานกันอย่างดี ช่วยเหลือกันและกัน เห็นแล้วเราก็ปลื้มใจนะคะ ไม่นึกว่าสิ่งที่เราคิดอยู่คนเดียว แล้วพอน้อง ๆ ทีมชูใจเอาไปคิดทำต่อ พอมาเห็นมันเป็นภาพจริง ๆ ในจอ มันก็ตื่นเต้นแล้วก็น้ำตาไหลไปตามเรื่อง
มันเป็นอีกมิติหนึ่งของงานศิลปะซึ่งมันจะเติมเต็มจินตนาการของเราที่ได้จากการอ่านหนังสือ ก็รับรองว่าไม่ผิดหวัง ไม่มีอะไรที่ไกลไปจากหนังสือเลย ถ้าเดินออกจากโรงก็จะรู้สึกว่า ชีวิตนี้มันก็ยังมีความหวัง เรื่องอุปสรรคมันเป็นเรื่องธรรมดา แล้วก็น่าจะอิ่มใจดี ได้อารมณ์ที่จะทำให้เรามีพลังสู้ชีวิตต่อไปนะคะ แล้วก็น่าจะเป็นความสุขความประทับใจของทั้งคนเขียนและคนแสดงที่จะส่งต่อถึงคนดูได้ทุกคนทุกวัยเลยนะคะ”
ติดตามชมภาพยนตร์อบอุ่นสุดประทับใจเรื่อง “ความสุขของกะทิ” ได้ 8 ม.ค. 52 ต้อนรับวันเด็ก ทุกโรงภาพยนตร์