บทโทรทัศน์โดย
กำกับการแสดงโดย ปกาสิต กิ่งศักดิ์
ดำเนินงานโดย บ. มาสเตอร์วัน วีดีโอ โปรดักชั่น
“คณะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ลูกเจ้าพระยา” ค่ายมวยเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อตั้งตั้งแต่สมัย ขุนผดุงศักดิ์ ข้าราชการสมัยรัชกาลที่เจ็ดเป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างขึ้น จนมาถึงรุ่น นาย เสริมศักดิ์ พร้อมเสริมชาติ ลูกชายและสุธินี ลูกสาว นายเสริมศักดิ์ หวังให้ เสริมชาติ สืบทอดเป็นเจ้าของค่ายมวยสืบไป แต่ เสริมชาติต้องทำให้พ่อผิดหวัง เพราะเขาเกิดมามีรูปร่างบอบบาง อ้อนแอ้นไม่สมกับเป็นเจ้าของค่ายมวย ผิดกับสุธินี ที่เป็นสาวห้าวชอบเรื่อง หมัด ๆ มวยๆ เสริมชาติมีจิตใจฝักใฝ่เรื่องงานศิลปะร้องรำทำเพลง และมักจะแอบพายเรือ ไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปดู “คณะพรนพรัตน์” หัดร้องรำและฝึกซ้อมลิเก
ฐานะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ตกต่ำจนนายเสริมศักดิ์ต้องนำที่นาไปจำนองกำนันชอุ่ม ระหว่างนั้นคณะลิเกของนายทวยเทพได้ต้อนรับ นายธำรง กับ คุณลลิตา และรุจิรางค์ ลูกสาวคนเดียวที่ประสบอุบัติเหตุจากการแข่งขันขี่ม้าทำให้เธอกลายเป็นโรคเกี่ยวกับสมองไม่สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ไปชั่วระยะหนึ่ง รุจิรางค์เป็นคนหงุดหงิดเจ้าอารมณ์คอยกราดเกรี้ยวใส่ทุกคน โดยเฉพาะเนตรดารา นางเอกลิเกวัยรุ่นที่หลงตัวเอง เสริมชาติ แอบหาเวลามาดูการฝึกซ้อม เขาพบรุจิรางค์นั่งอยู่บนศาลาริมน้ำบ้านนายทวยเทพ ชายหนุ่มเกิดความประทับใจในความงาม จึงแต่งกลอนลิเกร้องชมความงามของรุจิรางค์ แต่เธอกลับหงุดหงิดจึงต้องขับกลอนลิเกสัพยอกหยอกเย้าจนหญิงสาวสงบขึ้น เธอขอให้เสริมชาติช่วยถ่ายวีดีโอ บันทึกภาพขณะเธอร้องและร่ายรำเพลงไทยเดิม เพื่อว่าสักวันเธอพลิกฟื้นความทรงจำ เธอจะเก็บภาพพวกนี้ไว้เป็นที่ระลึก
ครั้งหนึ่งลิเกคณะพรนพรัตน์ขาดพระเอก เนตรดาราจึงแนะนำเสริมชาติ เสริมชาติจึงได้เล่นเป็นพระเอกลิเกและได้รับคำชมเป็นอย่างมาก นายเสริมศักดิ์รู้เข้าจึงเฆี่ยนตี และสั่งห้ามไม่ให้ไปบ้านนายทวยเทพอีก
ด้านรุจิรางค์ได้รับการฟื้นฟูทางสมองจนทบทวนเรื่องบางอย่างได้ดีขึ้น จึงขอให้พ่อกับแม่พาไปพักฟื้นยังบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝ่ายเสริมชาติเองยังคงต้องขึ้นเวทีชกมวยตามความต้องการของพ่อโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่นายเสริมศักดิ์กลับต้องกลุ้มใจมากขึ้นที่เสริมชาติชกมวยแพ้ทุกนัด อีกทั้งกำนันชอุ่มยังเร่งรัดเรื่องหนี้สินอีก ทำให้ในที่สุดสองพี่น้องตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านไปหางานทำในกรุงเทพ ทั้งคู่ไปหารุจิรางค์ที่บ้านแต่ไม่เจอ จึงไปอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง ทำอาชีพหาเช้ากินค่ำ
เสริมชาติบังเอิญเจอเด็กแต๋น ลูกจ้างสาวซึ่งทำงานที่บ้านของรุจิรางค์ พลั้งปากเรื่องรุจิรางค์รักษาตัวหายเป็นปกติและกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เสริมชาติจึงหาทางเจอกับรุจิรางค์แต่เธอกลับจำสองพี่น้องไม่ได้ จากนั้นเสริมชาติเข้ามาอยู่คณะลิเกของนายชู จนรุจิรางค์ได้มาดูการแสดงของเสริมชาติ เธอเหมือนต้องมนต์ รู้สึกคุ้นกับกลอนและเสียงลิเกแต่เธอจำไม่ได้ ทำได้แต่แวะเวียนมาดูเสริมชาติเล่นลิเกเท่านั้น เสริมชาติได้เป็นพระเอกลิเกของคณะ “ตุ๊ดตู่สวรรค์” และถูกกิตติ อดีตพระเอกลิเก ไม่พอใจ เสริมชาติถูกหาว่าเป็นมือปืนโดนจับ ถูกกลั่นแกล้งจากเหล่านักโทษ แต่ก็ยังคงไม่เลิกเล่นลิเก ส่วนสุธินีเองยังคงชกมวยจนได้รับบาดเจ็บจนถูกส่งตัวเข้า รพ. ถิรนัย คนรักเก่าของรุจิรางค์รับว่าความให้เสริมชาติโดยมีข้อแม้ว่าหากว่าความชนะ รุจิรางค์จะต้องแต่งงานกับเขา ต่อมากิตติยอมรับผิด เสริมชาติพ้นโทษออกมา เสริมชาติทุ่มเทความสามารถดูแลหวังจะก่อตั้งลิเกของนายชูให้ก้าวหน้า ก่อนที่ลิเกของนายชูจะถึงกาลอวสาน มีคนติดต่อมาว่าเสริมชาติได้รับรางวัลเป็นคนดีของสังคมประจำปี ทำให้คนในสังคมต่างสนใจและเริ่มทยอยให้ความช่วยเหลือและหากเสริมชาติตัดใจยอมรับข้อเสนอจากสำนักพิมพ์ที่จะว่าจ้างเขาไปให้ข้อมูลเขาจะได้รับเงินค่าตัวล่วงหน้าเป็นเงินก้อนใหญ่ เนตรดารารีบสนับสนุน เสริมชาติสับสนจนทำอะไรไม่ถูก นายชูเตือนสติให้คิดถึงอนาคตของตัวเองกับความอยู่รอดของครอบครัวเป็นอันดับแรกแล้วไม่ต้องเป็นห่วงลิเกคณะตุ๊ดตู่สวรรค์ จนเนตรดาราต้องไปพบรุจิรางค์เพื่อขอร้องหญิงสาวไปช่วยเกลี้ยกล่อมเสริมชาติให้ยอมรับงาน
จอห์นผู้ทำสัญญาว่าจ้างลิเกคณะตู๊ดตู่สวรรค์แสดงโชว์ทั่วอเมริกา เกิดไอเดียจะให้เปลี่ยนการแสดงแบบฉบับลิเกไทยมาเป็นโลดโผนไปทางอนาจาร โดยที่ทางนายจ้างยินดีจะเพิ่มค่าตอบแทนให้เป็นเท่าตัวหรือตามที่เสริมชาติ ต้องการ แต่เสริมชาติยืนกรานไม่ขอทำ ก่อนที่เรื่องจะบานปลายเสริมชาติขอถอนตัวและเตรียมตัวจะเดินทางกลับ สตีเฟ่นก็สามารถติดต่อหาสปอนเซอร์รายการทีวี ซึ่งชื่นชมและยกย่องการแสดงรูปแบบไทยแท้ของลิเกไทย ยอมว่าจ้างลิเกคณะนี้แสดงในแอล.เอ.ต่อไปในอัตราค่าตอบแทนสูง สองหนุ่มสาวรวมทั้งทีมงานชาวลิเกคณะตุ๊ดตู่สวรรค์เปลี่ยนชื่อใหม่ว่าลิเกรวมพลังมิตรแท้ ตั้งใจแสดงลิเกและศิลปะรำไทยเผยแพร่ผลงานจนทั่วอเมริกา เสริมชาติไม่รู้ว่าขณะที่เขากับรุจิรางค์กำลังมีความสุขแต่สุขภาพของหญิงสาวกลับทรุดโทรมลง จนกระทั่งรุจิรางค์เป็นลมกลางเวที ทุกคนจึงได้รู้ว่าหญิงสาวกำลังป่วยทางสมองและร่างกาย เสริมชาติขอยกเลิกสัญญาจากบริษัทอื่นๆที่ติดต่อมาเพราะเขาต้องการมีเวลาดูแลหญิงสาวเต็มที่ จนรุจิรางค์ขอร้องเสริมชาติให้ช่วยพาเธอกลับเมืองไทย
บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นเหมือนรังรักระหว่างเสริมชาติกับรุจิรางค์ โดยที่ลลิตาไม่อาจกีดกันลูกสาวได้อีก ทุกคนร่วมมือกันทำทุกอย่างเพื่อให้รุจิรางค์มีความสุข สุดท้ายความรักของเสริมชาติและรุจิรางค์จะดำเนินต่อไปอย่างไร ต้องติดตามชมทุกเย็นวันจันทร์ — ศุกร์ เวลา 19.15 น. เป็นต้นไป ทางไทยทีวีสีช่อง 3
รายชื่อนักแสดงเรื่อง “พ่อมาลัยริมทาง”
ไชยา มิตรชัย รับบทเป็น เสริมชาติ
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น รุจิรางค์
ดนัย จารุจินดา รับบทเป็น ถิรนัย
ดวง อัทธเสรี รับบทเป็น สุธินี
อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ รับบทเป็น ธิดา
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบทเป็น เนตรดารา-ดาว
พลังธรรม กล่อมทองสุข รับบทเป็น กิตติ
แอน มิตรชัย รับบทเป็น มยุรา
ไชย ขุนศรีรักษา รับบทเป็น เสริมศักดิ์
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบทเป็น ดวงพร