ไบโอเทค ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเอนไซม์เพนโตซาเนส สู่ภาคเอกชน ลดการนำเข้าเอนไซม์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์บก

พฤหัส ๐๘ มกราคม ๒๐๐๙ ๑๕:๐๓
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ศูนย์ไบโอเทค ภายใต้สังกัด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ร่วมกับ บริษัท เอเซีย สตาร์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด โดย ดร.วรรณพ วิเศษสงวน นักวิจัยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ศึกษาวิจัยเรื่อง การผลิตเอนไซม์เพนโตซาเนสจากเชื้อ Aspergillus sp. BCC7178 บนอาหารแข็งในระดับนำร่องอุตสาหกรรม พบว่าสามารถทำการขยายขนาดการผลิตได้ง่ายและได้ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ที่มีประสิทธิภาพและความสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์

เอนไซม์เพนโตซาเนส เป็นเอนไซม์ที่นิยมใช้เสริมในอาหารเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหารสำหรับสุกรและไก่ มีความเหมาะสมกับการย่อยวัตถุดิบที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ภายในประเทศ การวิจัยและพัฒนาการผลิต เอนไซม์เพนโตซาเนส ในประเทศไทย นักวิจัยไทยได้ผลิตโดยใช้จุลินทรีย์ที่คัดแยกได้ภายในประเทศ ซึ่งเหมาะสมกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ใช้ในประเทศไทย เป็นลักษณะของเอนไซม์รวมเพื่อเสริมในอาหารสัตว์โดยเฉพาะสุกรและไก่ มีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยง ผู้เลี้ยงและสิ่งแวดล้อม

- สำหรับสัตว์เลี้ยง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยสลายวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ย่อยสลายยาก สัตว์สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารต่างๆ ไปใช้ได้มากขึ้น มีอัตราการแลกเนื้อดีขึ้น มีสุขภาพแข็งแรงและลดอัตราการเจ็บป่วย

- สำหรับผู้เลี้ยง จะช่วยให้สามารถลดต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากเมื่อสัตว์ไม่เจ็บป่วยก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ และที่สำคัญทดแทนการนำเข้าเอนไซม์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จากต่างประเทศที่มีราคาแพง

- สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม การที่สัตว์สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดี ทำให้มีการตกค้างของสารอินทรีย์ในมูลสัตว์น้อยลง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมได้

และในวันนี้ (8 ม.ค. 52) ได้จัดให้มีลงนามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีกระบวนการผลิตเอนไซม์เพนโตซาเนสจากเชื้อสายพันธุ์ Aspergillus sp. BCC7178 เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์บกระหว่าง ไบโอเทค สวทช.กับ บริษัท เอเซีย สตาร์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์บก

โดย ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “ไบโอเทค สวทช.มีโปรแกรมการวิจัยและพัฒนาการจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ ประเทศไทยในแต่ละปีมีปริมาณการใช้จุลินทรีย์หรือสารที่ผลิตจากจุลินทรีย์ปริมาณมาก ซึ่งสัมพันธ์กับตัวเลขการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆในปริมาณสูงมากขึ้นทุกปี เป้าหมายหลักของโปรแกรมวิจัยนี้ เพื่อให้ได้ต้นแบบหรือผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งทางการค้า หรือเป็นประโยชน์แก่ภาคสาธารณะได้จริง เพื่อส่งเสริมหรือกระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมที่ใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ขึ้นในประเทศไทย ช่วยให้ประเทศสามารถประยุกต์ใช้จุลินทรีย์หรือสารจากจุลินทรีย์ตั้งแต่ในระดับอุตสาหกรรมครัวเรือนไปจนถึงระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และการส่งออก นับเป็นการสนับสนุนการเพิ่มมูลค่าทรัพยากรชีวภาพของไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ด้าน คุณกฤษณ โชคพิพัฒนผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซีย สตาร์ แอนนิมัล เฮลธ์ จำกัด กล่าวว่า

“เราเป็นบริษัทคนไทยที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจด้านปศุสัตว์ มีแนวทางในการพัฒนาในรูปแบบที่ยั่งยืน พัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยอาศัยงานวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง สำหรับการลงนามสัญญาในการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเอนไซม์เพนโตซาเนส จาก ไบโอเทค สวทช.ในวันนี้ เรามีความเชื่อมั่นว่าจะช่วยเป็นแรงเสริมให้กับบริษัทในการพัฒนาธุรกิจให้มีความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่เราได้วางแผนไว้”

บริษัท เอเซีย สตาร์ แอนนิมัล เฮลธ์ จำกัด พัฒนามาจาก บริษัท เอเซีย สตาร์ แลป จำกัด มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ จากประสบการณ์กว่า 10 ปี และการวางแผนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ร่วมกับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทสองกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มบริษัท อาร์ เอ็กซ์ จำกัด และ กลุ่มบริษัท พิสิษฐ์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจกว่า 30 ปี และกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินอยู่นั้นมีความหลากหลาย ซึ่งได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการรับรองคุณภาพต่างๆ ได้แก่ GMP, ISO 9001:2000, ISO 14001:2004 และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล www.asah.co.th

ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 เป็นหนึ่งในศูนย์แห่งชาติภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระภายใต้การกำกับของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานชั้นนำของประเทศและภูมิภาคที่ดำเนินการวิจัยทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ด้วยห้องปฎิบัติการที่มีมากกว่า 30 ห้องและนักวิจัย 150 คน ศูนย์ไบโอเทคดำเนินการวิจัยตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงการวิจัยประยุกต์ คลอบคลุมทั้งการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร วิทยาศาสตร์การแพทย์ และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยมีหน่วยวิจัย 3 หน่วยตั้งอยู่ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และอีกประมาณ 10 หน่วยเป็นหน่วยวิจัยเฉพาะทางตั้งอยู่ตามมหาวิทยาลัยและหน่วยงานรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ www.biotec.or.th

งานประชาสัมพันธ์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สวทช.

บงกช สาริมาน โทร. 02-564-6700 ต่อ 3315 โทรสาร 02-564-6703 มือถือ 081-819-3945

e-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ