แต่ยังคงรั้งตำแหน่งกรรมการบริหารและพร้อมเป็นพี่เลี้ยงช่วยสานต่อยุทธศาสตร์และเป้าหมายของบริษัท หลังปั้นบล.บัวหลวงมากว่า 7 ปี สร้างทีมงานจนมั่นคง เชื่อมั่นกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่และผู้บริหารทุกท่าน รวมทั้งรองกรรมการผู้จัดการที่โปรโมทขึ้นมาอีก 3 ท่าน จะผลักดันธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น
ด้านพิเชษฐ สิทธิอำนวย เผยรับไม้ต่อลุยธุรกิจของบล.บัวหลวงทุกส่วนทันที พร้อมสร้างธุรกิจใหม่ เสริมรายได้ให้บล.บัวหลวงเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 2552
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือบล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจในปี 2552 ของบล.บัวหลวง ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท ด้วยการเปิดตัวกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย ที่จะเข้ามาเป็นแม่ทัพกุมบังเหียน ซึ่งจะนำบล.บัวหลวงให้เดินไปตามยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ได้วางไว้สู่เป้าหมายการเป็น 1 ใน 5 ผู้นำในธุรกิจหลักทรัพย์ หลังจากที่นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ ได้แสดงความประสงค์ลดบทบาทจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ทางบริษัทต้องขอขอบคุณนายญาณศักดิ์ที่ได้นำพาธุรกิจของบล.บัวหลวงให้เจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างทีมบริหารและทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจต่างๆ ของบริษัทอยู่ในระดับแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจอนุพันธ์ ธุรกิจวาณิชธนกิจ และธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับธุรกิจใหม่ๆ มาตั้งแต่ก่อตั้ง และจะยังคงทำงานให้กับบล.บัวหลวงต่อไปในตำแหน่งกรรมบริหาร ซึ่งจะสามารถให้คำปรึกษาทางธุรกิจกับผู้บริหารของบริษัท โดยเชื่อมั่นว่าบล.บัวหลวงจะยังคงแข็งแกร่งเติบโตต่อไปในอนาคต
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าต้องการลดบทบาทการทำงานจากกรรมการผู้อำนวยการ เป็นพี่เลี้ยงที่พร้อมสนับสนุนการทำงานของกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่รวมถึงพนักงานทุกท่าน ในการร่วมกันผลักดันธุรกิจของบล.บัวหลวง ให้เติบโตก้าวหน้าต่อไป ในฐานะกรรมการบริหาร บล.บัวหลวง
“ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของผู้ถือหุ้นบล.บัวหลวงและทีมงานมืออาชีพภายในบริษัท การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผู้บริหารใหม่เข้ามาผลักดันธุรกิจต่อไปในอนาคต ส่วนผมก็ยังทำงานให้กับ บล.บัวหลวงในฐานะกรรมการบริหาร ที่จะให้คำปรึกษากับกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่และพนักงานทุกคนในการทำธุรกิจ และจะรวมถึงการที่จะชักนำธุรกิจด้านต่างๆ เข้ามาให้กับ บล.บัวหลวงตามปกติ และจะใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งทำกิจกรรมต่างๆ ภายนอกบริษัท ที่จะเป็นประโยชน์กับบล.บัวหลวงและอุตสาหกรรม” นายญาณศักดิ์เผย
นายญาณศักดิ์ กล่าวถึงกรรมการผู้อำนวยคนใหม่ของบล.บัวหลวงว่า เป็นคนที่คุ้นเคยกับบล.บัวหลวงจากการดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบให้กับบล.บัวหลวงมาตั้งแต่ปี 2548 ได้คลุกคลีกับธุรกิจของบล.บัวหลวงและรับรู้ถึงแนวทางธุรกิจและเป้าหมายของบล.บัวหลวงเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ยังเคยทำงานร่วมกันกับตนที่บล.เจ.เอฟ.ธนาคมถึง 6 ปี ก่อนที่นายพิเชษฐจะลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวด้านการบริหารแฟรนไชส์
ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา การมาทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการบล.บัวหลวงในครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างธุรกิจบล.บัวหลวงให้เติบโตยิ่งขึ้น
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ของ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงการเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการครั้งนี้ว่า เป็นความท้าทายที่จะได้เข้ามาบริหารงานในองค์กรธุรกิจชั้นนำอย่างบล.บัวหลวง โดยพร้อมที่จะใช้ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา และความสามารถส่วนตัวทั้งหมดในการนำพาธุรกิจของบล.บัวหลวงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมที่จะสานต่อความสำเร็จที่ผ่านมาจากการบริหารของคุณญาณศักดิ์ ที่ได้วางพื้นฐานให้กับบริษัทแห่งนี้อย่างมั่นคง โดยจะอาศัยทีมบริหารและทีมงานเดิม
ทั้งหมดในการร่วมกันสร้างบล.บัวหลวงในยุคที่ตนเองรับบทแม่ทัพให้บล.บัวหลวงยืนอยู่ในระดับแนวหน้าทางธุรกิจ
สำหรับในปี 2552 นี้ นายพิเชษฐ มีความเห็นว่า ธุรกิจหลักทรัพย์จะเป็นธุรกิจที่มีความผันผวนมาก จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบัวหลวงจะดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และพร้อมที่จะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเมื่อสถานการณ์อำนวย ทั้งนี้ บล.บัวหลวงยังจะเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ให้เพิ่มขึ้นจาก ประมาณ 4%ในปี 2551 เป็น 5%ในปี 2552 และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นจาก 4.7%ในปี 2551 เป็น 5.2%ในปี 2552 โดยเน้นกลยุทธ์เรื่อง Wealth Management สำหรับลูกค้าบุคคล ส่วนลูกค้าสถาบันจะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นกับบริการที่มีประสิทธิภาพของบริษัทรวมถึงการสร้างฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ตามแผนธุรกิจปี 2552 บล.บัวหลวงตั้งเป้าสร้างรายได้ธุรกิจวาณิชธนกิจ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 90 ล้านบาทในปี 2551 เป็น 120 ล้านบาทในปี 2552 โดยเน้นการเป็นที่ปรึกษาการควบรวมกิจการ ส่วนเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นจากประมาณ 11,000 ล้านบาทในปี 2551 เป็นมากกว่า 14,000 ล้านบาทในปี 2552 และบริษัทจะเริ่มดำเนินการธุรกิจยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ได้ในไตรมาส 2 ซึ่งเชื่อว่าจะมีศักยภาพที่ดีในอนาคต และในโอกาสเดียวกันนี้ทางบล.บัวหลวงได้เลื่อนตำแหน่งผู้บริหาร 3 ท่าน ได้แก่ นายกำธร ศิลาอ่อน และนายวรารัตน์ ชุติมิต จากเดิมผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ ขึ้นเป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ และนางสาวอรนุช วชิรัคศศวกุล เดิมผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบัน เป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์สถาบันอีกด้วย
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณปิยวรรณ อนันต์เวทยานนท์ (เอ๋)
บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด บริษัทตัวแทนที่ปรึกษางานประชาสัมพันธ์ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง
โทร. 081 944-1972 หรือ 662 292-9383