นางเมลิซ่า ทันโทโกะ คีอาโน่ ประธาน นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจขายตรงในภูมิภาคเอเชียว่าถึงแม้เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะผันผวนแต่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมขายตรงโดยรวมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากขายตรงเป็นทางเลือกที่ทำให้คนว่างงานหรือผู้ต้องการมีรายได้เสริมหันมาจับธุรกิจนี้มากขึ้น และเชื่อว่าอุตสาหกรรมขายตรงในภูมิภาคเอเชียจะมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน สำหรับแนวโน้มของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียนั้นเชื่อว่า ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจในเรื่องของผลิตภัณฑ์ต่อต้านความชรา และลดเลือนริ้วรอยหรือ Anti-aging จึงเป็นผลให้สินค้าในธุรกิจขายตรงในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อการชะลอวัย จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมของธุรกิจขายตรงเมืองไทยปีนี้จะมีมูลค่าราว 4.5 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตที่ชะลอตัว โดยเฉลี่ยที่ 5-7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เติบโตที่ 10% เนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ แต่จะพบว่าจะมีนักธุรกิจอิสระเพิ่มมากขึ้นโดยประมาณ 10% สาเหตุจากอัตราแนวโน้มคนว่างงานและถูกเลิกจ้างที่มากขึ้น ประกอบกับภาวะฝืดเคืองด้านการเงินทำให้ธุรกิจขายตรงได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกในการหารายได้เสริมอีกทางหนึ่ง
สำหรับปีนี้ นู สกิน ได้ขยายการรองรับโอกาสทางธุรกิจที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยการย้ายสำนักงานใหญ่จากเดิมที่อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค มาอยู่ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี สามย่าน ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมือง คมนาคมสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน พื้นที่ใช้สอยในสำนักงานที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้แทนจำหน่ายได้มากขึ้น พื้นที่ภายในตกแต่งด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย หรูหรา อาทิ Team Elite & Blue Diamond Club สำหรับผู้แทนจำหน่ายระดับสูง, Business Zone ห้องประชุมและฝึกอบรมสำหรับผู้แทนจำหน่าย, Show Case ที่กว้างขวาง ครบครัน สะดวกสบายในการจับจ่ายผลิตภัณฑ์ และ Professional Beauty Center ศูนย์ความงาม และสปาแบบครบวงจร สงบ และผ่อนคลายสำหรับผู้มาใช้บริการ
ในปีนี้ นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส อิงค์ สหรัฐอเมริกา จะเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 25 ปี ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก่อนหน้านี้ นู สกิน ทั่วโลกได้ทำการรีแบรนด์ด้วยการปรับเปลี่ยนโลโก้บริษัทฯให้ดูทันสมัย มีชีวิตชีวา สอดคล้องกับบุคลิกของผู้บริโภคมากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าของ นู สกิน ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน การย้ายบ้านใหม่ของ นู สกิน ถือเป็นการขานรับการขยายตัวของธุรกิจขายตรงในไทยที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้บริษัทฯคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีผู้แทนจำน่ายเพิ่มขึ้น 10 % ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีผลประกอบการรวมประมาณ 1, 300 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตที่ 10% เมื่อเทียบกับผลประกอบการปีก่อนหน้านี้
“ด้านกิจกรรมการตลาดในปีนี้ บริษัทฯได้เตรียมงบสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 5% โดยจะเน้นเป็นการเพิ่มกิจกรรม นู สกิน โรดโชว์ ไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และน่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นยอดขายในปีนี้ด้วย สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนั้นยังคงเป็น กัลวานิค สปา ซิสเต็ม และนอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมตัวเปิดนวัตกรรมความงามชนิดใหม่ในการช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เรียกว่า “ทรูเฟซ เอสเซ็นซ์ อัลตร้า” (TruFace Essence Ultra) โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมใหม่นี้จะวางจำหน่ายในเมืองไทยในเดือนมีนาคม 2552 ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงเน้นโปรแกรมฝึกอบรมผู้แทนจำหน่าย เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านเครื่องมือในการทำธุรกิจ รวมทั้งโปรแกรมท่องเที่ยวสำหรับผู้แทนจำหน่ายเพื่อเป็นแรงจูงใจอีกด้วย”
ทั้งนี้ นู สกิน จะยังคงชูคอนเซปต์ “ความแตกต่างที่พิสูจน์ได้จริง” หรือ The Difference, Demonstrated” ในการสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งใน 4 ปัจจัยหลักได้แก่ 1) ทีมบุคลากรคุณภาพ (People) ประกอบด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ ผู้บริหาร พนักงาน และทีมผู้แทนจำหน่ายมืออาชีพ 2) ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีผลการศึกษาทางคลินิกสนับสนุน (Product) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตลอดจนนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ อาทิ เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ เครื่องตรวจสภาพผิวหน้าโปรเดิร์ม 3) โอกาสในการดำเนินธุรกิจ (Opportunity) ที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า นู สกิน เป็นธุรกิจเครือข่ายไร้พรมแดน มีอิสระในเรื่องของเวลา สร้างงานสร้างรายได้และได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า 4) กิจกรรมเพื่อสังคม (Culture) ที่มีเจตนารมณ์ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนภายใต้โครงการพลังแห่งความดี (Force for Good)
ปัจจุบัน นู สกิน จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนล แคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มากกว่า 200 รายการ แบ่งสัดส่วนจากยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 54% และกลุ่มเพอร์ซันแนลแคร์ 46% สำหรับจำนวนผู้แทนจำหน่ายในขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 2.3 แสนบัญชีรายชื่อ จำแนกเป็นผู้บริหารระดับทีมอิลิท 15 บัญชีรายชื่อ ผู้บริหารระดับบลูไดมอนด์ 36 บัญชีรายชื่อ ทำเนียบผู้บริหาร 200 ล้านบาท จำนวน 1 บัญชี ทำเนียบผู้บริหาร 100 ล้านบาท จำนวน 2 บัญชี ทำเนียบผู้บริหาร 40 ล้านบาท จำนวน 2 บัญชี ทำเนียบผู้บริหาร 20 ล้านบาท จำนวน 8 บัญชี ทำเนียบผู้บริหาร 10 ล้านบาท จำนวน 13 บัญชี และทำเนียบผู้บริหาร 1 ล้านบาท จำนวน 260 บัญชีรายชื่อ นางภคพรรณกล่าวในที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อลิสา ทองสดเจริญดี / ธัญรัตน์ ลิ้มพัฒนาสิทธิ์ หรือ วรีรัตน์ ธนะนพรัตน์
บริษัท สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย)จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 17-18 โทร. 0-2791-8500 ต่อ 8552
มือถือ 086-500-2582 และ 081-558-3025 www.nuskin.co.th