ฟิทช์ : ภาพรวมผลประกอบการปี 2551 ของธนาคารไทยยังคงแข็งแกร่ง แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2552

ศุกร์ ๒๓ มกราคม ๒๐๐๙ ๑๖:๒๙
ฟิทช์ เรทติ้งส์ แสดงความเห็นว่าผลการดำเนินงานของธนาคารไทยมีแนวโน้มที่อ่อนแอลงในปี 2552 หลังจากได้ประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2551 ท่ามกลางวิกฤติการณ์ทางการเงินของโลกและความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ จากการประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจของฟิทช์ที่คาดว่าการเติบโตของ GDP ของประเทศไทยจะติดลบ 1.1% ในปี 2552 ทำให้ธนาคารไทยอาจเผชิญกับปัญหาด้านคุณภาพสินทรัพย์และการขยายตัวของสินเชื่อที่ต่ำ อย่างไรก็ตามด้วยพื้นฐานของธนาคารไทยที่ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งจะสามารถช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้

วินเซนต์ มิลตัน กรรมการผู้จัดการของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) และนักวิเคราะห์อาวุโสในส่วนสถาบันการเงิน กล่าวว่า ด้วยผลการดำเนินงานของธนาคารไทยที่แข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น และการเติบโตของสินเชื่อที่ไม่สูงนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะส่งผลให้ธนาคารไทยมีความพร้อมมากขึ้นในการรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะรุนแรงในปีนี้ เมื่อเทียบกับในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 — 2541

ธนาคารไทยประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2551 โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1% เพิ่มขึ้นจาก 0.3% ในปี 2550 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง และการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของระบบลดลงมาอยู่ที่ 7% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2551 จาก 9% ณ สิ้นปี 2550 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ธนาคารบางแห่งได้มีนโยบายในการเร่งรัดการปรับโครงสร้างสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แม้ว่าการเติบโตของสินเชื่อที่ค่อนข้างสูงในระดับ 11% และการปฏิบัติตามมาตรฐาน Basel II ในสิ้นเดือนธันวาคม 2551 จะส่งผลให้ระดับเงินกองทุนของธนาคารไทยลดลงบ้าง แต่ธนาคารไทยโดยรวมยังคงมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งอยู่ โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมของธนาคารไทยมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11% และ 14% ของสินทรัพย์เสี่ยง ตามลำดับ

ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ เช่น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ได้ประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในปี 2551 โดย BBL มีกำไรสุทธิ 20.3 พันล้านบาท และมี ROA 1.2% SCB มีกำไรสุทธิ 21.3 พันล้านบาท และมี ROA 1.8% และ KBANK มีกำไรสุทธิ 15.3 พันล้านบาท และมี ROA 1.3% ถึงแม้ว่าธนาคารทั้ง 3 แห่งนี้ คาดว่าจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ดีต่อไปได้ ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานของธนาคารไทยโดยรวมจะอ่อนแอลงในปี 2552 จากการเติบโตของสินเชื่อที่ลดลง ในขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และระดับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคารไทยจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับผลกระทบดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง ธนาคารขนาดเล็กอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องที่ลดลงและการระดมเงินทุนที่ทำได้ยากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการค้ำประกันเงินฝากในปัจจุบันจะช่วยรักษาเสถียรภาพในการระดมเงินทุนในอีก 3 ปีข้างหน้าได้

ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT เป็นธนาคารเดียวที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนในปี 2551 โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 1.9 พันล้านบาท ในขณะที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB มีผลการดำเนินงานขาดทุน 4 พันล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2551 เนื่องจากการใช้นโยบายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เข้มงวดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม TMB ยังคงมีกำไรสุทธิสำหรับผลการดำเนินงานปี 2551 ที่ 0.5 พันล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY มีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย BAY มีกำไรสุทธิ 4.9 พันล้านบาทในปี 2551 เมื่อเทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 4 พันล้านบาทในปี 2550 ในขณะที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 12.1 พันล้านบาท ในปี 2551 แต่ KTB ยังคงมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมในระดับที่สูง เนื่องจากอัตราเงินสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ KTB ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 40%

ระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารไทยยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับโครงสร้างสินเชื่อ การขายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และการตัดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกจากบัญชี ในปี 2551 BBL สามารถลดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลงถึง 27.5 พันล้านบาท โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของธนาคารลดลงเหลือ 4.6% จาก 7.9% ณ สิ้นปี 2550 ในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ KBANK เป็นธนาคารที่มีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่ำที่สุดในระบบ โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ 3.7% ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ SCB ปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.5% ณ สิ้นปี 2551 จาก 6.3% ณ สิ้นปี 2550 TMB และ BAY ยังคงมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับที่สูงที่ 16.4% และ 10.1% ตามลำดับ โดยทั้งนี้คาดว่าธนาคารทั้งสองแห่งจะเร่งดำเนินการขายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้แนวโน้มของคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของธนาคารไทยที่ปรับตัวดีขึ้นในปีที่ผ่านมา อาจมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงกันข้ามในปี 2552 จากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่รุนแรง ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2551

แนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารไทยส่วนใหญ่ได้ถูกปรับเป็น ‘ลบ’ จาก ‘มีเสถียรภาพ’ เมื่อเดือนธันวาคม 2551 หลังจากที่แนวโน้มอันดับเครดิตสากลของประเทศไทยได้ถูกปรับเป็น ‘ลบ’

การเปิดเผยข้อมูล: บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กสิกรไทย จำกัด ซึ่งถือหุ้น 99.99% โดยธนาคารกสิกรไทย ถือหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีผู้ถือหุ้นใดนอกเหนือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดแห่งประเทศอังกฤษที่มีส่วนในการดำเนินงานและการจัดอันดับเครดิตที่จัดโดยบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อ

Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4759

พชร ศรายุทธ, กรุงเทพฯ +662 655 4761

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก