ในการจัดทำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่นี้ มีรูปแบบและลวดลายเช่นเดิม แต่ปรับปรุงให้สวยงามมากยิ่งขึ้น สำหรับในส่วนของรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่มีความแตกต่างในสาระสำคัญจากเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดปัจจุบัน ดังนี้
1. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 1 สตางค์ และ10 สตางค์ เส้นผ่าศูนย์กลาง ความหนา และน้ำหนักคงเดิม แต่เปลี่ยนส่วนผสมของโลหะจากอลูมิเนียมร้อยละ 97 เป็นร้อยละ 99
2. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 5 สตางค์ น้ำหนักคงเดิม แต่เปลี่ยนเส้นผ่าศูนย์กลางจาก 16.00 มิลลิเมตร เป็น 16.50 มิลลิเมตร ความหนาลดลงจาก 1.40 มิลลิเมตร เป็น 1.35 มิลลิเมตร และเปลี่ยนส่วนผสมของโลหะจากอลูมิเนียมร้อยละ 97 เป็นร้อยละ 99
3. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ เส้นผ่าศูนย์กลาง ความหนา และน้ำหนังคงเดิม แต่เปลี่ยนชนิดของโลหะจากอลูมิเนียมบรอนซ์ (สีทอง) เป็นโลหะไส้เหล็กชุบทองแดง
4. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 1 บาท เส้นผ่าศูนย์กลางและความหนาคงเดิม แต่เปลี่ยนชนิดของโลหะจากคิวโปรนิกเกิลเป็นโลหะไส้เหล็กชุบนิกเกิล และน้ำหนักลดลงจาก 3.40 กรัม เป็น 3.00 กรัม
5. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 2 บาท เส้นผ่าศูนย์กลางคงเดิม แต่เปลี่ยนชนิดของโลหะจากไส้เหล็กชุบนิกเกิล (สีขาว) เป็นโลหะอลูมิเนียมบรอนซ์ (สีทอง) น้ำหนักลดลงจาก 4.40 กรัม เป็น 4.00 กรัม และความหนาลดลงจาก 1.70 มิลลิเมตร เป็น 1.50 มิลลิเมตร
6. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 5 บาท โลหะ เส้นผ่าศูนย์กลางคงเดิม แต่ความหนาลดลงจาก 2.20 มิลลิเมตร เป็น 1.75 มิลลิเมตร และน้ำหนักลดลงจาก 7.50 กรัม เป็น 6.00 กรัม
7. เหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 10 บาท โลหะ เส้นผ่าศูนย์กลาง ความหนา และน้ำหนักคงเดิม
สำหรับการนำออกใช้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่นี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จะเริ่มออกใช้เหรียญกษาปณ์ ชนิดราคา 2 บาทก่อนเป็นลำดับแรก ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป ส่วนเหรียญกษาปณ์ ชนิดราคาอื่น ๆ จะทยอยนำออกจ่ายแลกต่อไป
ประชาชนและผู้สนใจสามารถแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ได้ที่
- สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ
- หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ
- สำนักงานคลังจังหวัด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-2278-5641